จะไปแล้ว : ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบัน แถลงต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ประกาศไม่ลงเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลต่ออีกสมัย ในเวลาที่เขาเผชิญปัญหามากมายจนความนิยมตกต่ำ

โตเกียว (เอพี/รอยเตอร์ส/เอ็นเอชเค) -ญี่ปุ่นกำลังจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้วหลังจากที่ ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ประกาศไม่ลงเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรครัฐบาลต่ออีกสมัย ในเวลาที่เขาเผชิญปัญหามากมายจนความนิยมตกต่ำ  คิชิดะกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวทางโทรทัศน์วันที่ 14 ส.ค. ว่า เขาตัดสินใจจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพีซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้อีกสมัย หมายความว่า ญี่ปุ่นจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คิชิดะ อธิบายถึงการตัดสินใจของเขาว่า ในการเลือกตั้งประธานพรรคแอลดีพีที่กำลังจะมาถึง มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงให้ประชาชนเห็นว่า พรรคแอลดีพีจะมีการเปลี่ยนแปลง และหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงคือการที่เขาจะก้าวถอยหลังออกมาจากการเลือกตั้งผู้นำพรรค คิชิดะกล่าวด้วยว่า เขาจะทำหน้าที่ทุกอย่างสุดความสามารถในฐานะนายกรัฐมนตรีก่อนที่วาระการดำรงตำแหน่งของเขาจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน

ขณะที่ชาวญี่ปุ่นมีความเห็นแตกต่างกันไปในเรื่องนี้ บางคนรู้สึกเห็นใจและอยากให้คิชิดะทำหน้าที่ต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อคลายความกดดัน บางคนรู้สึกประหลาดใจที่เขาตัดสินใจกะทันหันเช่นนี้ แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะพรรคแอลดีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลมีข้อครหาทุจริตเกิดขึ้นมากมาย บางคนเชื่อว่า คิชิดะจำใจต้องตัดสินใจดังกล่าว เพราะความนิยมตกต่ำมากจนไม่อาจรักษาตำแหน่งหัวหน้าพรรคในการเลือกตั้งเดือนหน้าได้อยู่แล้ว และจะหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปด้วยอย่างแน่นอน

คิชิดะ วัย 67 ปี เป็นนักการเมืองที่คร่ำหวอด ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาได้เกือบ 3 ปี เขาก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือนตุลาคม 2021 และเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในยุคหลังสงครามที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 8 แต่ในช่วงที่ผ่านมา คิชิดะเผชิญเรื่องอื้อฉาวการทุจริตภายในพรรค ท่ามกลางการเปิดเผยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคแอลดีพี กับ โบสถ์แห่งความสามัคคี (Unification Church) และล่าสุดเรื่องการบริจาคเงินเข้าพรรคโดยไม่มีการบันทึกเป็นหลักฐาน รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจปากท้องราคาสินค้าพุ่งสูงและค่าเงินเยนตกต่ำ จนความนิยมตกต่ำลงเหลือเพียง 15.5% จากการสำรวจเมื่อเดือนที่แล้ว ในหมู่สมาชิกพรรคแอลดีพีเอง เขาก็สูญเสียความเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำพาพรรคสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้าได้หรือไม่

ตามระบบการเมืองของญี่ปุ่น เมื่อเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรครัฐบาล หัวหน้าคนใหม่ก็จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นกับพรรคแอลดีพี ที่ครองอำนาจบริหารมายาวนานเกือบ 80 ปีนั้น ถือว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองครั้งสำคัญ โดยในขณะนี้มีนักการเมืองอาวุโสในพรรคหลายคนพัวพันการทุจริต และยังมีอีกหลายคนที่กำลังถูกสืบสวนจนภาพลักษณ์ของพรรคมัวหมองอย่างหนัก