การแข่งขันมวยสากล เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ที่หางโจว ยิมเนเซียม ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม เป็นการแข่งขันในรอบชิงฯ รุ่น 51 กิโลกรัม ชาย “เหลิม” ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด นักชกวัย 23 ปีจากพิจิตร พบกับ ฮัสซันบอย ดุสมาตอฟ วัย 30 ปีแชมป์โลกและเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2016 ในรุ่นฟลายเวต จากอุซเบกิสถาน

ยกแรก เจ้าเหลิม เป็นฝ่ายสืบเท้าเข้าหา และใช้การออกหมัด ทิ่มขวาสวยๆได้หลายชุด ขณะที ฝั่งอุซเบกิสถาน ออกหมัดชัดเจนกว่า จบยกแรก ธิติสรรณ์ คะแนนยังตาม 9-10 ทั้ง 5 เสียง

ยกสอง นักชกไทย เดินเข้าใส่ และขยันออกหมัด แต่ ฮัสซันบอย ฉากหลบไม่จนหมุม และหาจังหวะขโมยต่อยแม่นยำ จบยก 2 นักชกไทยยังตาม 9-10 เช่นเดิม ยกสุดท้าย ไม่มีอะไรจะเสีย ธิติสรรณ์ พยายามหาจังหวะทีเด็ดพลิกเกม แต่ก็ยังเข้าไม่ถึงตัว ดุสมาตอฟ ที่เต้นหนีไปตลอดยก 

จบเกม ธิติสรรณ์ อกหักในรอบชิงฯ พ่ายไป 0-5 เสีย ได้เหรียญเงิน ปลอบใจ รวมทั้ง โควตา โอลิมปิกเกมส์ 2024

จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกมวยสากลสมัครเล่นสาวไทย มีโปรแกรมขึ้นชิงเหรียญทองรุ่น 66 ก.ก. พบกับ หยาง ลิ่ว นกชกเจ้าภาพจีน เจ้าของแชมป์โลก ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย 

ยกแรกสาวไทย วัย 23 ปีเป็นฝ่ายเดินหน้าเปิดฉากบุกเข้าใส่ทันที ขณะที่นักชกจีน พยายามเล่นวงนอกเนื่องจากได้เปรียบช่วงชก แม้ว่าการชกจะสูสี แต่เมื่อจบยกแรก จันทร์แจ่มแพ้ 2-3 เสียง

ยกสอง เสื้อกล้ามสาวไทยยังชกสไตล์เดิมด้วยการเดินเข้าหาและปล่อยหมัดชุด ส่วน หยาง ลิ่ว ยังเล่นวงนอกเพื่อดักต่อย หลังจากหมดยกกรรมการให้เจ้าภาพชนะ 4-1 เสียง

ยกสุดท้ายจันทร์แจ่มไม่มีทางเลือกต้องเดินหน้าเข้าใส่ออกหมัดให้กรรมการเห็นชัดที่สุด แต่ว่านักมวยจีนเก๋าเกมพยายามดึงช้า จนหมด 3 ยก กรรมการชูมือให้ หยาง ลิ่ว ชนะ 5-0 เสียง คว้าเหรียญทองไปครอง ส่วนจันทร์แจ่มได้เหรียญเงิน

ครบทุกรุ่น กำปั้นไทยไม่สามารถเก็บเหรียญทองได้ มี 3 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง