พล.ต.อ.สุรเชษฐ์    ยื่นคำร้องขอให้ศาล พิจารณาไต่สวน เรื่องการละเมิดอำนาจศาล กรณีการออกหมายค้นบ้าน

  ที่ ศาลอาญา  ถนนรัชดาภิเษก  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ศาล พิจารณาไต่สวนเรื่องการละเมิดอำนาจศาล กรณีการออกหมายค้นบ้านพัก /โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การออกหมายค้น  ที่ไปค้นบ้านตนเองเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น  มองว่าเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาล เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นบ้านที่ตนพักอาศัยอยู่ แต่ผู้ที่ไปขอหมายไม่ได้บอกศาล และแม้ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ของบ้านจะเป็นบุคคลอื่นแต่ก็เป็นญาติกัน

ส่วนเหตุผลที่ระบุว่า  เป็นการขอหมายค้นบ้านเพื่อเข้าจับกุม สารวัตรนนท์ ตามหมายจับ นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  กล่าวว่า  สารวัตรนนท์ เป็นนายตำรวจติดตามของตนเองนั้น  อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าตนเองก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้   โดยหากศาลรู้ว่าเป็นบ้านของตน ศาลก็จะให้ความเป็นธรรม   เพราะส่วนตัวแล้วไม่ได้มีคดีความ  ซึ่งการถูกออกหมายค้น และนำกำลังยกมาเป็นจำนวนมาเพื่อเข้าค้น   ทำให้ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุด้วยว่า ลูกน้องของที่ถูกออกหมายจับก็เตรียมที่จะไปยื่นขอความเป็นธรรมต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ด้วย ว่าการออกหมายจับนั้น  เป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เพราะในการไปขอหมายจับไม่ได้ระบุยศตำรวจ ใส่เพียงคำนำหน้าชื่อเป็นนายทั้งหมด ทำให้ศาลไม่ทราบ  เป็นการปกปิดซ่อนเร้น จึงถือเป็นการส่อพิรุธ

ส่วนประเด็นที่จะไปร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง  เป็นเรื่องของการแจ้งความเท็จ  ซึ่งขอตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน  ยืนยันว่าตนเองพร้อมรับการตรวจสอบ แต่การตรวจสอบนั้นต้องเป็นธรรม ไม่มีวาระซ่อนเร้น  ไม่เช่นนั้นก็ต้องมีการใช้สิทธิทางกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม   โดยหากรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วประชาชนจะไปหาความเป็นธรรมได้จากที่ไหน

สำหรับประเด็นเส้นทางการเงิน ยืนยันว่าไม่ได้มีเส้นทางการเงินตรงเข้ามาที่ตนเอง โดย   ทั้งหมดเป็นเรื่องของลูกน้อง ซึ่งเป็นหน้าที่ของลูกน้องที่ต้องตอบว่านำเงินไปทำอะไร พร้อมกันนี้ ยังแจงประเด็นที่ปรากฎชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์บ้านทั้ง 5 หลัง คือ เฮียแต๋ม ซึ่งเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่จังหวัดอุดรธานี และพบว่ามีการโอนเงินมาจ่ายค่าส่วนกลางบ้านปีละ 142,000 บาทนั้น พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เฮียแต๋ม เป็นญาติสนิท และเป็นเจ้าของบ้านทั้งหมด โดยเฮียแต๋มให้ตนเช่าบ้านอยู่ โดยมีสัญญาเช่าชัดเจน  ซึ่งบ้านที่อาศัยอยู่นี้  เคยให้การกับ ป.ป.ช. ไว้นานแล้ว

ส่วนหลังจากนี้จะมีหลักฐานส่วนไหนที่เชื่อมโยงมาหาตน แล้วมีการออกหมายจับคนในครบอครัวหรือไม่นั้น    ไม่ได้มีความกังวลใจ   เพราะสามารถชี้แจงได้หมด โดยเฉพาะแม่ที่อายุมากแล้ว   ท่านไม่รู้จักเรื่องการพนันออนไลน์อย่างแน่นอน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากถูกค้นบ้าน  ก็ได้มีการพูดคุยเเบบส่วนตัวกับ   ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ก่อนหน้านี้เพียงได้รับรายงานว่าจะมีการตรวจค้น  ภายหลังจากตรวจค้นแล้ว   ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่หรือไม่นั้น ตนเองไม่ขอออกความคิดเห็น   แต่ยืนยันว่าจะขอดำเนินคดีทุกคน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้