“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลชาย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เตรียมลงแข่งขันฟุตบอลชาย เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” รอบ 16 ทีมสุดท้าย พบกับ อิหร่าน ในวันที่ 27 กันยายน เวลาไทย 15.30 น. ที่ซางเฉิง สปอร์ตเซ็นเตอร์ นครหางโจว 

โดยผลงานในรอบแรก ทีมชาติไทยเสมอ บาห์เรน 1-1, แพ้ เกาหลีใต้ 0-4 และเสมอกับคูเวต 1-1 เข้าเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด เจอกับอิหร่าน ที่เป็นแชมป์กลุ่มบี จากผลงานชนะรวดทั้ง 3 นัด
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 กันยายน ทีมชาติไทยเปลี่ยนแผนการฝึกซ้อมจากที่เดิมทีจะมีการซ้อมในช่วงเย็น แต่เปลี่ยนให้นักเตะพักผ่อนอย่างเต็มที่แทน และเตรียมเดินทางจากเมืองจินหัว เข้าสู่นครหางโจว โดยรถบัสของเจ้าภาพ ในวันที่ 26 กันยายน ก่อนจะลงฝึกซ้อมในช่วงเย็นทันที
“โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวถึงสภาพของผู้เล่นในทีมว่า จาก 21 คนที่มาแข่งขัน (ในโควต้า 22 คน) ตอนนี้จะเหลือแค่ 20 คนแล้ว เพราะบุคฆอรี เหล็มดี แบ๊กขวาจากชลบุรี เอฟซี ถูกต้นสังกัดเรียกตัวกลับไทยไปในวันที่ 25 กันยายน ทำให้ทีมไทยจะเหลือผู้เล่นเอาต์ฟิลด์ 17 คนเท่านั้น (ผู้รักษาประตู 3 คน)
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในจำนวน 17 คนที่เหลืออยู่ ปรากฏว่า แม็กซิมิเลี่ยน สไตน์เบาเออร์ มีอาการบาดเจ็บแฮมสตริง รวมถึง พิทักษ์ พิมพ์แป้ ข้อเท้าพลิกในเกมกับคูเวต ทำให้ทั้งสองคนอาจจะไม่พร้อมลงสนามในเกมกับอิหร่านได้ ทำให้ทีมไทยเหลือผู้เล่นเอาต์ฟิลด์เพียงแค่ 15 คนเท่านั้น
อิสสระกล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญตอนนี้คือต้องฟื้นฟูร่างกายนักเตะกลับมาก่อน จึงให้พักผ่อนเต็มที่ แล้วค่อยเริ่มซ้อมในวันที่ 26 กันยายน ส่วนอิหร่านนั้น ถึงจะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนหน้า แต่สมัยนี้ข้อมูลหาไม่ยาก เตรียมประชุมดูจุดแข็งจุดอ่อนกันอีกครั้ง
“ผมมองว่าอาจจะเป็นโชคชะตามากกว่าในการเจอกับทีมโซนตะวันออกกลางอีกครั้ง แต่ก็ดีใจ ที่ได้เจอทีมเก่งๆ ของเอเชียอย่างอิหร่าน เป็นการได้วัดระดับของตัวเอง” โค้ชหระกล่าวปิดท้าย
สำหรับ อิหร่าน นั้น ผลงานในรอบแรก เสมอ ซาอุดีอาระเบีย 0-0, ถล่มเวียดนาม 4-0 และอัดมองโกเลีย 3-0 ยังไม่เสียประตูเลย แต่ก่อนหน้านี้ อิหร่านตกรอบคัดเลือก ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่เป็นการคัดโอลิมปิกเกมส์ไปด้วย