วันพุธที่ 2 เมษายน 2568
13 ส.ค. 2567 15:06 | 1331 view
@pracha
‘นายกฯ’วางคิวประชุม‘แม่โขง-ล้านช้าง’ 16 ส.ค.นี้ เยือน ‘เชียงแสน’แก้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมมอบ‘ภูมิธรรม’บูรณาการปราบสินค้าต่างประเทศผิดกฎหมาย
13 สิงหาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายรัฐมนตรี แถลงหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศขอความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 15-19 สิงหาคม 2567 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยตนจะเดินทางไปร่วมประชุมในเช้าวันที่16 ส.ค. โดยปกติแล้วนายกรัฐมนตรีไม่ต้องไป แต่มีเรื่องความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี การท่องเที่ยว การบินพลเรือน โดยเฉพาะการปราบปรามยาเสพติด อย่างที่ทราบว่าแหล่งผลิตอยู่ที่ประเทศเพื่อบ้าน ตลอดจนการยับยั้งการค้าออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลต้องผลักดันต่อ และตนจะลงพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ในสัปดาห์หน้าเพื่อติดตามงานด้วย
นายเศรษฐา แถลงอีกว่า ตนสั่งการกระทรวงพาณิชย์ การคลัง เกษตรและสหกรณ์ ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) อุตสาหกรรม สาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้นายภูมิธรรม เป็นเจ้าภาพประชุมในการหามาตรการป้องกันและปราบปรามธุรกิจขายสินค้าต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย เช่น การตรวจสอบการาจดทะเบียนธุรกิจการค้า และการตรวจสอบใบอนุญาตต่างๆ การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ รวมถึงการชำระอากรขาเข้าของผู้ประกอบการ เพื่อหาทางสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย สามารถปรับตัวแข่งขันได้ในตลาดสินค้าออนไลน์ และและแบบหน้าร้านที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต เสริมมาตรการภายในสิ้นเดือนนี้
ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐนตรี(ครม.) ถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯสั่งการเรื่องมาตรการป้องกันธุรกิจการค้าขายสินค้าต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมีข้อร้องเรียนจากภาคเอกชนไทย โดยเฉพาะนักธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากการค้าในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งมีข้อร้องเรียนว่ามีการขายสินค้าออนไลน์ไหลเข้ามาสูงผิดปกติ โดยธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่เกี่ยวข้องกับการค้าปลีก ตัวเลขทางการเมือปีที่ผ่านมา มูลค่า 1.53 ล้านล้านบาท ฉะนั้นจึงกระทบกับภาคเอกชนของไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอีอย่างยิ่ง นายกรัฐมนตรี จึงยกมาเป็นข้อสั่งการโดยมอบหมายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นเจ้าภาพประสานร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ การคลัง เกษตรและสหกรณ์ ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) อุตสาหกรรม สาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำหนดมาตรการชัดเจนเป็นรูปธรรมในการไม่ให้การค้าออนไลน์และออฟไลน์จากต่างประเทศเขามากระทบกับธุรกิจของประเทศไทย
มาตรการ 1.ตรวจสอบการจดทะเบียนธุรกิจการค้าและใบอนุญาตต่างๆ ถ้าใครค้าขายผิดกฎหมายหรือเป็นธุรกิจสีเทาไม่มีใบอนุญาต ไม่ขึ้นทะเบียนก็ต้องจัดการ
2.การตรวจสอบคุณภาพสินค้าว่าเป็นไปตามมาตรฐานของสถาบันต่างๆในประเทศไทยหรือไม่ เช่น มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา( อย.) อย่างไรก็ตาม เพื่อปกป้องผู้บริโภคคนไทย สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) จะรับเป็นเจ้าภาพในเรื่องการตรวจสอบคุณภาพนี้
3.จะตรวจสอบใบอนุญาตสินค้าจากต่างประเทศ และการชำระอากรขาเข้าของผู้ประกอบการว่ามีการเสียภาษี มีการชำระอากรถูกต้องหรือไม่
4.จะตรวจสอบใบอนุญาตการตั้งโรงงาน โดยให้กรมโรงงานเป็นผู้ตรวจสอบ ทั้งนี้ นายกฯย้ำว่า ตรวจสอบแต่ต้องรักษาสมดุลให้เป็นไปตามข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ
ข่าว
1 เม.ย. 2568 16:20 187 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 16:16 151 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 16:13 156 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 14:32 178 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 14:23 235 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 14:23 146 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 14:05 149 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 13:51 283 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 13:34 169 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 13:31 158 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 13:18 118 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 13:17 152 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 12:54 175 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 12:34 179 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 12:19 227 views
ข่าว
1 เม.ย. 2568 12:01 182 views