รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่เน้นแก้ปัญหาให้ตรงจุด และให้ความสำคัญกับเด็กเล็ก กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า 100 วันแรกของการเข้าทำงานคงจะไม่ง่ายเพราะกระทรวง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นกระทรวงที่ละเอียดอ่อนและต้องทำงานร่วมกันหลายฝ่ายถึงจะประสบความสำเร็จ ปัญหาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเด็กเล็ก กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง ถือว่ามีความสำคัญทั้งหมด สำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 3 ปี เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากของชีวิต เด็กเล็กจำเป็นจะต้องได้รับการดูแล ทั้งด้านร่างกาย สมอง จิตใจ

“สิ่งที่เราจะทำและพัฒนา คือผลักดันกฎหมาย และทำให้สำเร็จ นั่นคือ ร่างพ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. … ปรับปรุงกลไกการคุ้มครองเด็ก ให้ชุมชนและสังคมเข้ามามีส่วนร่วม กำหนดให้มีการจัดทำแผนการคุ้มครองเด็ก โดยทำงานร่วมกันในทีมสหวิชาชีพ ผู้ปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสร้างความสอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก  สื่อสารและบริหารจัดการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ให้ครอบคลุม ทั่วถึง มีประสิทธิภาพ และการติดตามผลสัมฤทธิ์  และจะยกระดับศูนย์อนุบาลพัฒนาเด็กเล็ก โดยจะเน้นที่การดูแลเด็กแรกเกิด ไม่ว่าจะต้องทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือร่วมกับภาคเอกชน เสริมสร้างศักยภาพผู้ดูแลเด็ก ส่วนในกลุ่มของผู้สูงอายุ จะมีการพัฒนาสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ  จัดตั้งศูนย์บริบาลผู้สูงอายุชุมชน  จัดทำโครงการเพื่อจูงใจคนวัยเกษียณ ให้ใช้ประสบการณ์ที่มีทำงานต่อ และสร้างศูนย์พักฟื้นและเสริมพลังชีวิต    ”  นายวราวุธ กล่าว 

ขณะที่กลุ่มเปราะบางหรือผู้พิการ  นายวราวุธ กล่าวว่า อย่างแรกที่สำคัญที่สุดคือ ปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้สมจริงและดูแลคนพิการได้ครอบคลุมทั่วถึงขึ้น  ยกระดับศูนย์บริการคนพิการทั่วไปร่วมกับองค์กรด้านคนพิการ  และเปลี่ยนแปลงวิธีคิดที่มีในสังคม เราจะต้องสร้างความเข้าใจให้คนทั่วไปเข้าใจคนพิการให้มากขึ้น เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ ให้สังคมแข็งแรงมั่นคง รวมไปถึงจะต้องปรับปรุงวิธีการบริหารจัดการกองทุนส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการให้คล่องตัว ยืดหยุ่นต่อการทำงาน  เป็นต้น