อีอีซี เตรียมเสนอแผนต่อรัฐบาล เน้นดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ พร้อมนัดหารือเพื่อให้ทิศทางดำเนินงานชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการไฮสปีดเทรน

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ซึ่งมีนโยบายที่เกี่ยวกับอีอีซี ว่า หลังจากนี้ต้องนัดหารือร่วมกัน เพื่อให้ทิศทางดำเนินงานสอดคล้องและชัดเจนมากขึ้น ซึ่งอีอีซีมีแผนที่เตรียมไว้แล้ว โดยเน้นดึงดูดนักลงทุนโดยเฉพาะจากจีน ญี่ปุ่น สหรัฐ และยุโรป เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ เช่นการแพทย์ อีวี อิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟ้า และบีซีจี รวมถึงหาวิธีดำเนินการให้สิทธิประโยชน์กับนักลงทุน ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ต้องรอให้รัฐบาลใหม่แก้ไขสัญญาในส่วนที่เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนการดำเนินโครงการกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย หากตกลงกันแล้วเสร็จ และผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว จึงจะนำไปสู่การก่อสร้างต่อไป ขณะที่สนามบินอู่ตะเภา อยู่ระหว่างกองทัพเรือประกาศประกวดราคาทางวิ่งของสนามบิน สำหรับเรื่องน้ำ เนื่องจากในอนาคตความต้องการใช้น้ำจะเพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเขตอุทยาน ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และตราด จึงเกิดปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้าง หากแก้ไขเสร็จจะสามารถจัดการท่อส่งน้ำมาใช้ที่ระยองและชลบุรีได้ ซึ่งเป็นแผนที่จะดำเนินการปีหน้า ส่วนรถไฟไทยจีนโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ต้องใช้ร่วมกันกับ โครงการรถไฟความเร็วสูงนั้น อยู่ระหว่างตกลงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

และในวันเดียวกันนี้อีอีซี และมูลนิธิสถาบันการสร้างชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "การขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่อีอีซี เพื่อสร้างชาติอย่างยั่งยืน" ครอบคลุมทั้งด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมเป้าหมาย พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรมให้แข่งขันได้ในตลาดการค้าสมัยใหม่ ตลอดจนการพัฒนาเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ และพัฒนากำลังคนในสาขาที่เป็นความต้องการในการพัฒนาพื้นที่อีอีซี ผ่านหลักสูตรและโครงการอบรมทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้อีอีซี เป็นพื้นที่ต้นแบบในการสร้างชุมชนให้เข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป