ทีมชาติไทย อกหักชวดแชมป์คิงส์คัพสมัย16 หลังพลาดท่าพ่ายดวลจุดโทษ อิรัก ไปหวุดหวิด 4-5 หลังเสมอกันเวลา 90 นาทีท 2-2 ส่งผลให้ อิรัก คว้าแชมป์คิงส์คัพ เป็นสมัยแรก

ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 49 ที่ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ทีมชาติไทย อันดับ 113 ของโลก พบ ทีมชาติอิรัก ทีมอันดับ 70 ของโลก

นาทีที่ 6 เป็นจากจังหวะอิรัก ทุ่มเข้ามา เอเลียส ดอเลาะ โหม่งเคลียร์ไม่ดี มาเข้าทาง บาชาร์ บอนยาน กัปตันทีม โหม่งต่อให้ อายเมน ฮุสเซน ได้ยิงจ่อๆ ให้ อิรัก นำก่อน 1-0

นาทีที่ 37 ไทย ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ เป็นจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน เปิดมาจากทางซ้ายไปที่เสาสองให้ นิโคลัส มิคเคลสัน วิ่งมาพุ่งโหม่งเข้าไป จากนั้นไม่มีจังหวะหวาดเสียให้เห็นพร้อมกับจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

นาทีที่ 64 อัมยาด อัตวาน ก็มาแก้ตัวสำเร็จ รับบอลจากที่เพื่อนเปิดให้ทางขวาเข้ากลางมา และยิงด้วยขวา แบบไม่จับเข้าไป อิรัก นำ 2-1

นาที 82 ไทย สามารถกลับมาสู่เกมตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ สุภโชค สารชาติ เปิดจากทางขวา ไปที่เสาสองให้ บดินทร์ ผาลา โหม่งลงพื้นย้อนทางเข้าประตูไป

เกมนี้ผู้ตัดสินใส่ช่วงทดเวลาเจ็บไปถึง 8 นาที แต่ทั้งสองพยายามกดดันใส่กัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จบเกมเสมอกันไป 2-2 ต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ

ผลการยิงจุดโทษปรากฎว่า อิรัก ชนะจุดโทษไป 5-4 คว้าแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 ไปครอง และถือเป็นแชมป์ครั้งแรก โดยทีมชาติไทย กฤษดา กาแมน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ปกเกล้า อนันต์, ธีราทร บุญมาทัน ยิงเข้า ส่วน ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ยิงพลาด

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย กล่าวว่า “เสียดายที่ไม่ได้แชมป์ แต่ไม่เสียใจ เพราะนักเตะชุดนี้ แสดงให้เห็นถึงการรวมใจสู้เต็มที่ เราเล่นได้ดีมาก สู้กับ อิรัก ทีมอันดับ 70 ของโลก และ ทีมอันดับ 7 ของเอเชีย ได้ไม่เป็นรอง เรามีสถิติครองบอลมากกว่าถึง 70% ต่อ 30% และ มีโอกาสยิงมากกว่า”

“ส่วนการดวลจุดโทษ เป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้ แต่อย่างน้อยทั้งหมด วันนี้ เราก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่ดี และ มีความหวังที่จะไปต่อยอดในคัดบอลโลก ขณะที่เรื่องอัดฉีด แม้ว่าวันนี้จะแพ้ แต่ แป้ง ก็เพิ่มให้น้อง ๆ อีก 500,000 บาท รวมเป็น 1,500,000 บาท”