จากกรณี “ร้านอาหารชื่อดัง” ของไทยแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเมนูขึ้นชื่อคือ “ปังชาเย็น” เปิดเผยข่าวสำคัญว่าแบรนด์ได้ จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) ชื่อเมนูดังกล่าวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเรียบร้อยแล้ว พร้อมอ้างอิงพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534
นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำว่า ร้านสงวนสิทธิห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข รวมทั้งห้ามนำชื่อแบรนด์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษไปใช้เป็นชื่อร้าน หรือใช้เป็นชื่อสินค้าเพื่อจำหน่าย พร้อมกันนี้ยังแนบรายละเอียดกฎหมายโดยอ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมอีกด้วย
ได้ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ในประเด็นที่ว่าทำได้หรือไม่? ก่อนที่ทาง กรมทรัพย์สินทางปัญญา จะได้ออกมาให้ความรู้ต่อประเด็นดังกล่าว ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า
“น้ำแข็งไสราด ชาไทย” มีขายมานานแล้ว จึงไม่มีใครสามารถจดสิทธิบัตร และอนุสิทธิบัตรแล้วอ้างเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในเมนูนี้ได้ ทว่า
“ภาชนะ” ที่ใช้ใส่ “ปังชา” ของแบรนด์ที่เป็นข่าวจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณณ์ไว้ ฉะนั้นกล่าวได้ว่า เมนูน้ำแข็งไสราดชาไทย
ใครก็ขายได้ แต่อย่านำลวดลายหรือแบบภาชนะที่คนอื่นจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไว้ไปผลิต แต่ถ้าคิดค้นสูตรขนมขึ้นใหม่ ซึ่งยังไม่เคยปรากฎที่ใดมาก่อน สามารถนำมาขอจดอนุสิทธิบัตรได้
ล่าสุด
ร้านอาหารลูกไก่ทอง และร้านปังชา ได้ออกประกาศชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊ก Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant ความว่า ร้านอาหารลูกไก่ทอง และ ร้านปังชา ขอประกาศขอชี้แจงถึงกรณีข้อความในโพสต์ที่ได้มีการโพสต์ผ่านทางโซเชียลมีเดียของทางร้าน ทางร้านขออภัยที่มีการสื่อสารและทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนทางร้าน ขอน้อมรับทุกคำติชม คำแนะนำ และจะปรับปรุง พัฒนา ทั้งในการสื่อสาร การบริการ สินค้า ต่อไป ขอขอบคุณกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้ให้ข้อมูลและหาแนวทางร่วมกันในการชี้แจงเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจทางแบรนด์เป็นอย่างดีที่สุด ที่สำคัญที่สุด กราบขอบพระคุณด้วยความเคารพจากใจในทุกๆท่านที่ร่วมกันโพสต์แสดงความคิดเห็นให้แนวทาง อธิบายในข้อมูลที่มีเพื่อเป็นความรู้กับปังชาเป็นอย่างดีที่สุด ขอบพระคุณจริงๆค่ะ ที่ผ่านมาจากกระแสที่เกิดขึ้น ทางร้านลูกไก่ทอง และ ปังชา มิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด แต่ได้มีการสอบถามและหาปรึกษาแนวทางร่วมกัน ชี้แจงกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงออกมาชี้แจง ณ ที่นี้ พร้อมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา