นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระบุว่า สำหรับการนอนพักรักษาตัวเป็นคืนที่ 2 ของอดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากราชทัณฑ์ได้ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ตำรวจ ทำให้ข้อมูลในส่วนของทางการแพทย์ จะเป็นการกำกับรับผิดชอบจากทีมแพทย์ รพ.ตำรวจ ราชทัณฑ์มีบทบาทหลักคือการดูแลรักษาความปลอดภัยและความเรียบร้อยให้ผู้ต้องขัง นอกจากนี้ ราชทัณฑ์ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจ พูดคุยในเชิงการปฎิบัติ การคัดกรองความปลอดภัย และเกณฑ์การเยี่ยม ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจน พร้อมทั้งได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมกันของทั้ง 3 หน่วยงาน ทั้งนี้ ผบ.เรือนจำฯ ยังระบุถึงเกณฑ์การเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ว่า รพ.ตำรวจ ค่อนข้างมีความชัดเจนเรื่องกรอบเวลาการเข้าเยี่ยม โดยในช่วง 5 วันแรกที่นายทักษิณอยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 (ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.- 27 ส.ค.) จะไม่สามารถเปิดให้บุคคลใดเข้าเยี่ยมได้ ยกเว้นทนายความตามกฎหมาย ซึ่งจะมีบัตรทนายความ แต่จะเป็นการเยี่ยมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แทน และเมื่อพ้น 5 วันกักโรคดังกล่าวแล้ว จะเป็นญาติหรือบุคคล 10 รายชื่อ ที่นายทักษิณได้แจ้งกับราชทัณฑ์ไว้ที่จะเข้าเยี่ยมได้ ซึ่งขณะนี้ราชทัณฑ์มีรายชื่อทั้งหมดเเล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นญาติและครอบครัว มีการกำหนดให้มีการเยี่ยมได้ 2 ช่วงเวลา คือ ช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 11.00 -13.00 น. ส่วนช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 17.00 -20.00 น. ทั้งนี้ นายนัสที ยังยืนยันว่า นายทักษิณ ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา (หอผู้ป่วยระดับสูง) โรงพยาบาลตำรวจ ยังไม่ได้มีแผนการจะโยกย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแต่อย่างใด