“บาตามัส” ทุเรียนชายแดนใต้ ผลผลิตจากการเรียนรู้ “ศาสตร์ของพระราชา” จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญของการปลูกทุเรียนมายาวนานหลายช่วงอายุคน โดยเฉพาะสายพันธุ์ดั้งเดิม ต่อมาเริ่มมีการปลูกเพื่อการค้ามากขึ้น แต่ก็เป็นการปลูกแบบตามมีตามเกิด ปล่อยไปตามธรรมชาติ ทำให้คุณภาพของทุเรียนที่ออกมานั้นตกเกรด และถูกกดราคา จนสร้างปัญหาให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ทั้ง ๆ ที่ รสชาติทุเรียนของทางภาคใต้นั้น นับว่ามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน เป็นเพราะแร่ธาตุในดิน และพื้นที่เพาะปลูกส่วนใหญ่มักอยู่ตามเชิงเขา ทำให้เนื้อของทุเรียนที่ออกมามีความนุ่มละมุน กลิ่นไม่แรง โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์ยอดนิยมอย่างหมอนทอง หรือมีชื่อภาษามลายูว่า “บาตามัส” ที่ตอนนี้มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายรวมพื้นที่กว่า 1.35 แสนไร่
โดยจังหวัดที่มีการปลูกทุเรียนมากที่สุด คือ ยะลา ประมาณ 96,200 ไร่ รองลงมาคือ นราธิวาส 3 หมื่นไร่ และปัตตานี 8,000 ไร่ โดยทุเรียนรุ่นแรกจะออกตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน และมีผลผลิตมากในช่วงกรกฎาคม – กันยายน แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ได้เข้าไปพัฒนาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในปี 2561 โดยการตั้งโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพตามศาสตร์พระราชา จังหวัดชายแดนใต้ หรือ “โครงการทุเรียนคุณภาพ” ที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา โดยการเข้าไปพัฒนานั้น ถูกกำหนดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกเกษตรกร การให้ความรู้ในการปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตให้ได้คุณภาพ การพัฒนาอาสาสมัครทุเรียนคุณภาพทำหน้าที่ในการสนับสนุน รวมทั้ง การเตรียมแผนการดำเนินงานด้านอื่น ๆ ตาม “ศาสตร์ของพระราชา”
ตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นที่ด้านน้ำ ดิน องค์ความรู้ทั้งการผลิต โรคพืช แมลง การเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้ผลผลผลิตที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด เชื่อมโยงกับแหล่งรับซื้อทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นตัวอย่างให้เกษตรกรนำไปเป็นแบบอย่าง และยังแก้ไขปัญหาความยากจนและลดเงื่อนไขในมิติความมั่นคงของจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ซึ่งกระบวนการดำเนินงานของสถาบันปิดทองหลังพระฯ ได้ดึงหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน รวมมือกันโดยตั้งเป้าหมายให้ประเทศชาติได้ประโยชน์ โดยได้น้อมนำแนวพระราชดำริและหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นั่นคือ เข้าใจ เข้าถึง และ พัฒนา เริ่มต้นลงมือทำแบบง่าย ๆ ก่อนรวมกลุ่มกัน และเสริมความรู้ รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาพัฒนา
ติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ภาพประกอบ
ขอบคุณข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ
มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ