จี้ กทม. ทบทวนกม.ดอกไม้เพลิง หวั่นซ้ำรอยนราธิวาส
นักวิชาการด้านกฎหมาย - อดีตผู้สมัคร สส. พรรคประชาธิปัตย์ เขตบางกะปิ วอน กทม. ทบทวนกฎหมายเกี่ยวกับดอกไม้เพลิง ชี้ ชุมชนอยู่อาศัยขยายตัวมากขึ้น หวั่นเกิดเหตุไม่คาดฝัน
จากกรณีเหตุการณ์โกดังพลุระเบิดที่บริเวณหมู่บ้านมูโนะ หมู่ที่ 1 ต. มูโนะ อ. สุไหงโกลก จ. นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก นั้น
นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. พรรคประชาธิปัตย์ เขตบางกะปิ ได้ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันพื้นที่ชุมชนในกรุงเทพมหานครมีการขยายตัวมากขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งเขตชานเมือง เช่น บางกะปิ สะพานสูง มีนบุรี คลองสามวา หนองจอก ฯลฯ โดยเฉพาะพื้นที่อยู่อาศัย ทั้งแนวดิ่งและแนวราบ คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร อาคารสำนักงานมัลติฟังชั่นพร้อมอยู่อาศัย ฯลฯ และยังมีประชากรทั้งจากจังหวัดอื่น ๆ และชาวต่างชาติเข้ามาพำนักอาศัยระยะยาวมากขึ้น ประกอบกับการขนส่งสาธารณะที่ทั่วถึงมากขึ้น ทำให้พื้นที่ชุมชนอยู่อาศัยใน กทม. กระจายอยู่ทั่วไป
เมื่อตรวจสอบข้อมูลพบว่ากรุงเทพมหานครยังอนุญาตให้มีการจำหน่ายและจุดดอกไม้เพลิง ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนด อย่างไรก็ตาม นายประพฤติมองว่าปัจจุบันพื้นที่อยู่อาศัยใน กทม. ขยายตัวและมีความหนาแน่นมากขึ้น ทั้งเขตชั้นในและชั้นนอก แม้จะมีกฎระเบียบควบคุม ก็อาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันได้จากสะเก็ดไฟหรือแรงระเบิด
จึงเสนอให้ กทม. พิจารณาประกาศให้พื้นที่ กทม. ทั้งหมดหรือส่วนใหญ่เป็น "เขตปลอดดอกไม้เพลิง" ห้ามเล่น ห้ามผลิต ห้ามจำหน่าย ไปเลย เพื่อสวัสดิภาพของประชาชนชาว กทม. และนอกจากนี้ผู้คนในปัจจุบันให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นิยมแสวงหาความสงบจากการพักผ่อนในที่อยู่อาศัยของตนเอง สังเกตได้จากข้อร้องเรียนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเสียงดังหรือเสียงรบกวนจากบริเวณข้างเคียงก็มีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรรมีรั้ว