การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมที่ 3 ของปี วิมเบิลดัน 2023 ชิงเงินรางวัลรวม 44,700,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2,011,500,000 บาท ที่ออล อิงแลนด์ ลอน เทนนิสคลับ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว

 "คาร์ลอส อัลคาราซ" นักเทนนิสมือวางอันดับ 1 ของโลกวัย 20 จากสเปน พบกับ "โนวัค ยอโควิช" มือวางอันดับ 2 ของโลกจากเซอร์เบีย และ แชมป์เก่า 7 สมัย ที่กำลังลุ้นแชมป์สมัยที่ 8 และ แชมป์แกรนด์สแลมที่ 24 ของตัวเอง นอกจากนี้ยังสร้างสถิติใหม่ในการเข้าชิงเทนนิสรายการแกรนด์สแลมรายการที่ 35 มากที่สุดในประวัติศาสตร์

 ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทั้งคู่สู้กันอย่างสมศักดิ์ศรี หวดมาราธอน 5 เซต ก่อน  "คาร์ลอส อัลคาราซ"  เฉือนชนะ "โนวัค ยอโควิช" 3-2 เซต 1-6, 6-6(8-6), 6-1, 3-6 และ 6-4 คว้าแชมป์ "วิมเบิลดัน 2023" และเป็นชายเดี่ยวอายุน้อยที่สุดในรอบ 17 ปี ต่อจาก "นาฟาเอล นาดาล" นักเทนนิสรุ่นพี่ในปี 2003

ส่วนประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ มาร์เคต้า วอนโดรโซว่า มืออันดับ 42 ของโลกจากสาธารณรัฐเช็ก พบกับ ออนส์ จาเบอร์ มือวางอันดับ 6 ของรายการ มืออันดับ 6 ของโลกจากตูนีเซีย เซตแรก วอนโดรโซว่า ปิดเซตแรกไปได้ที่ 6-4 เซตสอง รูปเกมกลับมาสนุกสูสี แต่เป็น จาเบอร์ ตีเสียเองบ่อยครั้งในเซตนี้ ทำให้วอนโดรโซว่า ลงมาออนเสิร์ฟและปิดแมตช์ไปอย่างยอดเยี่ยมที่สกอร์ 6-4 ทำให้เอาชนะ 2 เซตรวด มาร์เคต้า วอนโดรโซว่า สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเทนนิสหญิงเดี่ยวคนแรกไม่ได้ถูกจัดเป็นมือวาง ที่สามารถคว้าแชมป์วิมเบิลดัน ในยุค Open Era ได้สำเร็จ และ คว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการแรกของเธอด้วย พร้อมรับเงินรางวัล 2,350,000 ปอนด์ หรือประมาณ 108,100,000 บาท ส่วน ออนส์ จาเบอร์  ต้องอกหักคว้ารองแชมป์เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน มาร์เคต้า วอนโดรโซว่า เป็นนักเทนนิสหญิงจากสาธารณรัฐเช็กคนที่ 3 พร้อมทั้งอันดับโลกขยับพุุ่งทันทีจากอันดับ 42 ของโลกขึ้นมาอยู่มืออันดับ 10 ของโลก จากการจัดอันดับนักเทนนิสโลกหญิง (WTA) ในวันจันทร์นี้