30 มิถุนายน 2566 เวลา 09.30 น.ที่ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ฯ ถนนศรีอยุธยา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสมัชชาใหญ่สามัญ ประจำปี 2565 คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยที่ประชุมได้รับทราบการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ผ่านมา และรับทราบความก้าวหน้าการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 23 กันยายน - 8 ตุลาคม 2566 ณ เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน การเลื่อนการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์แอนด์มาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 พ.ศ.2564 (ค.ศ.2021) และรับทราบรายงานความก้าวหน้าการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ.2025) ณ กรุงเทพมหานคร , จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา ประเทศไทย
ในวาระหนึ่ง ที่ประชุมได้มีการสรุปผลงานของทีมนักกีฬาไทย ในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ที่มีทั้งประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย, ตรงตามเป้าหมาย และต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่ง “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ ได้ยกตัวอย่างสมาคมกีฬาที่มีผลงานล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ก็คือ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยเฉพาะ ฟุตบอลชาย ที่ไม่ได้เหรียญทอง แล้วยังสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับประเทศไทย เนื่องจากนักกีฬาและโค้ชได้ก่อเหตุตะลุมบอนกับอินโดนีเซียด้วย
เรื่องนี้ “บิ๊กป้อม” กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “เคยพูดว่าซีเกมส์ครั้งนี้ ถ้าฟุตบอลชายไม่ได้เหรียญทอง ก็ให้นายกสมาคมฟุตบอลฯ ลาออก เลยอยากจะถามกลับไปว่าแล้วจะลาออกไหม ไม่ต้องมาพูดถึงเรื่องปัญหาการเงินเลย เราทำผิดพลาดเอง เราต้องมีสปิริต ครั้งนี้เสียชื่อประเทศชาติมาก เรื่องการควบคุมอารมณ์ไม่ได้เพิ่งเกิด มีมาตลอด มันใช้ไม่ได้”
“ผมไม่อยากให้ประเทศชาติเสียชื่อเสียงเพราะสมาคมกีฬาเพียงสมาคมเดียว สมาคมอื่นๆ ก็เสียไปด้วย เพราะต้องรับผิดชอบร่วมกัน ฉะนั้นนายกสมาคมฟุตบอลฯ ต้องลาออกครับ โค้ชด้วย ลงไปต่อยกับเข้าได้ยังไง เสียหายหมด เพราะทีวีถ่ายทอดสดไปทั่วโลก เขาเห็นกันหมด มันเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล็ก คนไทย 70 ล้านคน อายชาติอื่นมาก”