พลเอกเดชา กล่าวว่า ในส่วนของนักปั่นทีมชาติไทยในประเภทถนน รุ่นประชาชนชาย ได้รับโควตาชิงแชมป์โลก 1 ที่นั่ง จากผลงานอันดับ 42 ของโลกในการจัดอันดับโลก เนชั่นส์ เวิลด์ แรงกิ้ง ของยูซีไอล่าสุด ส่วนรุ่นประชาชนหญิง ได้โควตา 3 ที่นั่ง รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หญิง ได้โควตา 1 ที่นั่ง จากผลงานอันดับ 28 ของโลก และรุ่นเยาวชนชาย 3 ที่นั่ง จากผลงานอันดับ 24 และแชมป์เยาวชนเอเชีย 2023 ล่าสุดของ “อุลตร้า” นายติณพัฒน์ เมืองเดช ขณะที่ประเภทลู่ ไทยได้รับโควตา 2 ที่นั่ง ในการแข่งขันประเภทสปรินท์บุคคลและคีริน รุ่นประชาชนชาย ส่วนในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ได้รับโควตา 2 ที่นั่ง ในรุ่นประชาชนชาย จากผลงานอันดับ 15 ของโลก และรุ่นประชาชนหญิง 3 ที่นั่งจากอันดับ 14 ของโลก นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า สำหรับการแข่งขันประเภทลู่ ที่จะแข่งขันในสนามคริส ฮอย เวลโลโดรม นักปั่นทีมชาติไทยที่จะส่งเข้าแข่งขันก็คือ “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ทั้ง 2 รายการ ในขณะที่ประเภทถนน รุ่นประชาชนชาย จะเป็น “วุฒิ” ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย หรือ “เฟรม” ส.ต.ธนาคาร ไชยาสมบัติ คนใดคนหนึ่ง รุ่นประชาชนหญิง ก็จะเป็น “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, “แพร” ส.ต.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช และ “บีม” ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ ส่วนรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง เป็น “ตาล” น.ส.กมลรดา ขาวปลอด ส่วนในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิง แข่งขันระหว่างวันที่ 12-13 สิงหาคม นักกีฬาที่อยู่ในข่ายจะไปสู้ศึกบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์โลก รุ่นประชาชนชาย ได้แก่ “เอ้” ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ, นายอภิสิทธิ์ ใจอยู่ ส่วนรุ่นประชาชนหญิง จะเป็น “ฟ้า” ส.ต.หญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร, “มิ้ง” น.ส.วรัญญา แซ่แต้ และอาจจะพิจารณาส่งนักกีฬารุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชายและหญิง เพิ่มเติมอีก 1-2 คนแล้วแต่กรณีต่อไป “เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า การแข่งขันจักรยานชิงแชมป์โลก 2023 ในแต่ละประเภทล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อการเก็บคะแนนสะสมนักปั่นในแต่ละประเภทเพื่อลุ้นโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในปัจจุบันนักปั่นไทยเรามีโอกาสที่จะควอลิฟายสูงมากในประเภทถนนชาย และหญิง ซึ่งการคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์จะใช้คะแนนสะสมเวิลด์ แรงกิ้ง ซึ่งสิ้นสุดในเดือนตุลาคมนี้ โดยจะคัดเอา 45 อันดับแรกในเวิลด์ แรงกิ้ง ไปแข่งขัน “ปารีสเกมส์”