การประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก (WCEC) ครั้งที่ 16 เปิดการประชุมอย่างเป็นทางการแล้ว มีนักธุรกิจชาวจีนจาก 50 ประเทศทั่วโลก ร่วมงานกว่า 3,000 คน การประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 เปิดการประชุมอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ ซึ่งการจัดงานนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และ นักธุรกิจชาวจีนจากทั่วโลก จะพูดคุยและแลกเปลี่ยนด้านการค้า การลงทุนระหว่างกัน ประเทศไทย นำโดยหอการค้าไทย-จีน เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก (WCEC) ครั้งที่ 16 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2566 ซึ่งการประชุมครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือระหว่างนักธุรกิจเชื้อสายจีนจากประเทศต่างๆทั่วโลก ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคนเชื้อสายจีนด้วยกัน รวมถึงเพื่อพบปะ พูดคุย เกี่ยวกับธุรกิจการค้าการลงทุนในแง่มุมต่างๆ โดยมีนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีน นักธุรกิจชาวจีนและนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเล จากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าร่วมงานประมาณ 3,000 คน ภายในงานวันนี้ มีพิธีเปิดงานการประชุมอย่างเป็นทางการ นำโดย พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี และนายเกา หยุนหลง รองประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานคณะกรรมการบริหารสหพันธุ์อุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยแขกสำคัญ 18 คน ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวเปิดงานว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นเวทีที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้นักธุรกิจชาวจีนและนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลจากทั่วโลก มาแลกเปลี่ยนข้อมูลและโอกาสทางธุรกิจ การค้า การลงทุน รวมถึงกระชับความสัมพันธ์และเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างกันโดยปัจจุบัน จีน ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากร1,412 ล้านคน โดยเป็นผู้ส่งออกสินค้าอันดับ 1 และเป็นผู้นำเข้าสินค้าอันดับ 2 ของโลก ทำให้เศรษฐกิจจีนมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกและประเทศต่างๆ เชื่อมั่นว่า การประชุมครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมรับทราบพัฒนาการทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย และเห็นแนวทางโอกาสทางธุรกิจ การค้า การลงทุน กับไทย ซึ่งสะท้อนจากนโยบายและศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน เช่น การขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศของไทย ภายใต้ความตกลงการค้าที่ทันสมัย รวมถึง FTA อาเซียน-จีน และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP และการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนในเขตพื้นที่ EEC