"แม่ชอบตรงที่ปิดทองฯ เขาติดตามถามไถ่ดี ตอนเขามาแรก ๆ แม่นี่แหละเป็นคนให้ข้อมูลเขา แม่ไม่หวง เขามาช่วย นอกจากชาอู่หลงที่แม่ปลูก เขาก็ให้ปลูกผลไม้ ลองกอง ลิ้นจี่ ทุเรียน มะยงชิด แม่ก็ปลูกหมด อย่างละ 10-20 ต้น" นางเวท อุ่นถิ่น หรือ แม่เวท เดิมเป็นคนหมู่บ้านเปียงซ้อ เติบโตมากับครอบครัวที่ค้าขาย พ่อมีอาชีพค้าขายวัวควาย บ้านก็เป็นร้านขายของชำ แม่เวทจึงซึมซับเอาการเอางานและชอบการค้าขายมาตั้งแต่เด็ก แม่เวทเล่าว่าในอดีตการหาของมาขายนั้นลำบากมาก ต้องซื้อมาจาก อ.ปัว ที่อยู่พื้นราบห่างออกไปเป็นระยะทางร่วม 100 กิโลเมตร จ้างคนแบกผ่านภูเขามาหลายลูกแล้วขึ้นไปส่งให้หมู่บ้านสุดปลายเขาที่บ้านเปียงซ้อ
กระทั่งในปี 2531 แม่เวทย้ายมาอยู่หมู่บ้านนาคุ ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน และเปิดร้านขายของชำของตนเอง วันหนึ่งเมื่อได้ไปเที่ยวที่ จ.เชียงราย มีคนชงชามาให้แม่เวทดื่ม แม่เวทนึกชอบและติดใจเป็นอย่างมาก แถมได้ยินมาว่าการดื่มชาอุ่น ๆ จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง แม่เวทจึงตัดสินใจถามไถ่เพื่อนฝูงที่อยู่ที่นั่น เพื่อหาซื้อกล้าชาอู่หลงมาปลูก เพราะแม่เวทเป็นคนที่มีความสนใจในเรื่องสมุนไพรและใส่ใจในเรื่องสุขภาพอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เมื่อไปเจออะไรที่ดีจึงอยากที่จะลงมือทำการปลูกด้วยตนเอง แม่เวทเริ่มต้นปลูกชาอู่หลงอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2538 บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ แม่บอกว่าบริเวณที่ปลูกเป็นที่ลาดชันพอสมควร ไม่ได้ใส่ปุ๋ยมาก และชาเป็นพืชที่ชอบอยู่ตามร่มไม้ ไม่ชื้นจนเกินไป พื้นที่ชันจึงเหมาะสม ประกอบกับต้องมีอากาศโปร่งและถ่ายเท ชาจึงไม่ชอบที่ราบ เพราะจะทำให้รากเน่าได้ง่าย จากประสบการณ์ของแม่เวทพบว่าชาเป็นพืชที่ยิ่งเก็บก็ยิ่งแตกใบอ่อนได้ดี ตอนเก็บชาในช่วงแรกได้เกือบ 10 กิโลกรัม ปริมาณเกินกว่าที่จะเก็บไว้กินเอง แม่จึงลงทุนซื้อเตาอบไมโครเวฟเพื่ออบใบชาไว้ขาย ชาอู่หลงของแม่เวทมีจุดเด่นตรงที่ปลูกขึ้นโดยไม่ได้ใช้สารเคมีใด ๆไม่เคยฉีดยาฆ่าหญ้า แต่ใช้วิธีจ้างคนมาช่วยถางหญ้าแทน และยืนยันได้ว่าคนส่วนใหญ่ที่รู้จักแม่เวทนั้น จะเชื่อมั่นในความไม่ชอบสารเคมีของแม่อยู่แล้ว จึงทำให้ชาอู่หลงของแม่เวทขายดิบขายดี จนมีไม่พอขาย แม่เวทมีรายได้จากการขายชาเกือบทุกเดือน เดือนละไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 บาท
แม่เวทเล่าต่อไปว่าในตำบลขุนน่านมีแม่เวทเพียงคนเดียวที่ปลูกชาอู่หลงแล้วอบไว้ขาย เงินที่เก็บหอมรอมริบได้มีไว้จุนเจือครอบครัว ทำเช่นนี้มาจนส่งลูกให้เรียนหนังสือจนจบได้ "อบเอง แพ็กเอง คนซื้อก็เป็นคนแถวนี้ มีข้าราชการแถวนี้มาจาก อ.บ่อเกลือบ้าง ต่างจังหวัดก็มีเช่น จ.นครพนม เขาสั่งมาก็ส่งไปทีละ 20 ห่อก็มี" นอกจากนี้ ยังได้ความรู้เรื่องการทำปุ๋ยน้ำหมักจากโครงการปิดทองหลังพระฯ และองค์ความรู้ต่าง ๆ มาช่วยต่อยอดให้ ตั้งแต่โครงการปิดทองหลังพระฯ เข้ามา แม่ก็เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัด คือ ความอุดมสมบูรณ์เรื่องของอาหารการกินของคนในหมู่บ้านที่มีมากขึ้น ทำให้คนมีอยู่มีกินจากการปลูกพืชผสมผสาน ที่มีทั้งการปลูกพืชผัก ผลไม้ กาแฟ การเลี้ยงกบ ปลาดุก เลี้ยงไก่ไว้กินเอง ฯลฯ "แม่เองก็ทำทุกอย่างที่โครงการฯ ส่งเสริม แต่ก็สนับสนุนแนวทางและอุดหนุนช่วยซื้อจากชาวบ้านคนอื่น ๆ และยังได้สังเกตเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอีกด้วย" ในอนาคต แม่เวทก็อยากให้คนอื่นหันมาปลูกชาอู่หลง ถึงแม้จะไม่ได้เงินหมื่นเงินแสน แต่ก็สามารถปลูกเพื่อสร้างเป็นรายได้เสริมได้ เพราะชาก็สร้างรายได้ให้กับเราตลอด และอีกเหตุผลหนึ่งคืองานเก็บใบชาเหมาะกับแม่เวทในยามนี้ เพราะไม่ต้องทำงานตรากตรำหนักอีกแล้ว
มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ