"ทุกอย่างที่ปิดทองฯ สนับสนุน การปลูกพืชหลังนาประเภทกระเทียม กะหล่ำปลี ก็ทำ ปลูกกล้วย ปลูกหม่อน ปลูกกาแฟ หรือแม้แต่การเลี้ยงหอยกาบในบ่อปลา แม่ก็ทำ ผลไม้พวกลิ้นจี่ เงาะ แก้วมังกร ก็ปลูก พื้นที่กว่า 20 ไร่ แม่ไม่เคยปล่อยให้ว่าง" เมื่อ 20 ปีก่อน นางแดง พรมพินิจ หรือ แม่แดง รวมถึงสามี มีอาชีพทำข้าวไร่ ปลูกข้าวโพด เลี้ยงลูก ๆ ที่ยังเล็ก ใช้ชีวิตอยู่กับไร่และสวนที่บ้านห้วยกานต์ หมู่ 1 ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ในเวลาต่อมามีหน่วยงานเข้ามาสนับสนุนให้ปลูกหม่อนเอาใบเพื่อการเลี้ยงไหม และเก็บผลหม่อนไว้ขายเป็นรายได้อีกทาง พร้อมกันนั้นยังมีส่งเสริมการปลูกกล้วยน้ำว้า ลิ้นจี่ และไม้ผลยืนต้นต่าง ๆ แม่แดงและชาวบ้านคนอื่นอีกหลายคนได้เข้าร่วม แต่ต่อมาประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด ไม่มีคนรับซื้อ ชาวบ้านเองก็ไม่สามารถนำผลผลิตไปขายตลาดข้างนอกได้ เพราะมีข้อจำกัดด้านการขนส่ง ผลผลิตจึงเน่าเสียจำนวนมาก "หม่อนเป็นพืชผลที่ต้องเก็บทันที พอติดขัดเรื่องตลาด ชาวบ้านเขาก็ไม่อยากทำต่อ" แม่แดงกล่าว
กระทั่งในปี 2552 โครงการปิดทองหลังพระฯ เข้ามาส่งเสริมและพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิต ในหมู่บ้านห้วยกานต์ มีการตรวจวัดแปลงที่ทำกินของชาวบ้าน เพื่อให้ทราบจำนวนเนื้อที่และตำแหน่งเพื่อวางแผนการพัฒนา เพราะไม่อยากให้ชาวบ้านต้องทำไร่เลื่อนลอย หลังจากนั้นจึงมีการเดินแปลง โดยเจ้าหน้าที่โครงการฯ ร่วมกับกรรมการหมู่บ้านและเจ้าของที่ดิน เพื่อจัดสรรพื้นที่ทำกินให้กับชาวบ้าน ในปี 2554 - 2555 โครงการฯ ยังดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีการสนับสนุนให้ชาวบ้านปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์แบบผสมผสาน ส่งเสริมให้ขุดนาขั้นบันได สอนให้ทำปุ๋ยหมัก สารชีวภัณฑ์ แม่แดง บอกว่า หลายกิจกรรมที่ส่งเสริมเป็นสิ่งที่แม่ทำอยู่ก่อนบ้างแล้ว จึงเป็นเรื่องไม่ยากที่แม่แดงจะเข้าร่วมกับทุก ๆ กิจกรรมของโครงการฯ แม่แดง เล่าต่อไปว่า ตอนนั้นทุกคนในครอบครัวทำทุกอย่างที่โครงการฯ สนับสนุน "ปลูกพืชหลังนาประเภทกระเทียม กะหล่ำปลี ก็ทำ ปลูกกล้วย ปลูกหม่อน ปลูกกาแฟ หรือแม้แต่การเลี้ยงหอยกาบในบ่อปลา แม่ก็ทำ ผลไม้พวกลิ้นจี่ เงาะ แก้วมังกร ก็ปลูก พื้นที่กว่า 20 ไร่ แม่ไม่เคยปล่อยให้ว่าง" แม่แดงบอกว่า "แม่เป็นคนรับฟังทุก ๆ โครงการ อยากทดลอง เชื่อว่าทุกสิ่งที่เข้ามาส่งเสริมนั้นเป็นเรื่องที่เราทำได้ ไม่เสียหาย ทำแล้วก็จะได้ดีกับตัวเอง อย่างการทำสวนผสมผสานแม้จะได้เงินทีละไม่มาก แต่ข้อดีของมันคือ มีให้เก็บกิน เก็บขาย ได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อก่อนวันหนึ่ง ๆ มีแต่ต้องควักเงินซื้อกิน ตอนนี้เรามีเองปลูกเองหมด พืชผักต่าง ๆ ปลา หอย เรามีหมด หมู ไก่ เราก็เลี้ยง ตอนนี้เรามีกินตลอด เหลือเราก็แบ่งปัน บางส่วนก็ขายสร้างรายได้ก็มีความสุขแล้ว"
ในอนาคตแม่แดงได้แต่หวังว่าหากลูก ๆ จะนำผลผลิตไปคิดต่อยอดพัฒนาทำน้ำลูกหม่อน แยมหม่อน สบู่ หรือยาสระผม พวกเขาก็ต้องหาวิธีจัดการด้านการตลาดด้วย แต่แม่ไม่กังวลมาก เพราะลูก ๆ ทำงานกับโครงการปิดทองหลังพระฯ ใกล้กับแหล่งความรู้อย่างนี้ มีองค์ความรู้อะไรใหม่ ๆ ก็จะได้เรียนรู้ตลอด จนเกิดเป็นความชำนาญยิ่ง ๆ ขึ้นไป คาดว่าจะสามารถประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ