โดย สาวไทย ซึ่งประกอบด้วย สุภาวรรณ ธิปัตย์ เป็นไม้ 1 ศุภนิช พูลเกิด เป็นไม้ 2 อรอุมา เชษฐา เป็นไม้ 3 และอธิชา เพ็ชรกุล เป็นไม้สุดท้าย คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นแชมป์สมัยที่ 25 จากการแข่งขันซีเกมส์ 32 ครั้ง ลมกรดสาวไทย กล่าวร่วมกันว่า “พวกเราทำได้แล้ว การวิ่งครั้งนี้ถือว่าฟอร์มมดีกว่า ซีเกมส์ปีที่แล้วที่เวียดนาม เรายังคงเป็นทีมเดิม ยังคงเชื่อมั่นในกันและกัน อาจจะมีปัญหาบ้างแต่ก็ผ่านกันมาได้ ดีใจที่รักษาแชมป์ให้คนไทยทุกคนได้สำเร็จ เหรียญนี้มอบให้กับเพื่อนๆในทีมกรีฑา ตัวสำรอง ทีมงาน และชาวไทยทุกคน ขอบคุณที่เชียร์พวกเรา ส่วนซีเกมส์ ครั้งหน้าที่ประเทศไทย เรายังคงจะพยายามอย่างเต็มที่เหมือนเดิม เพื่อป้องกันแชมป์ไว้ให้ได้อีกสมัย” ในขณะที่ทีมชายที่ประกอบไปด้วย จ.ต.ธวัชชัย หีมเอียด, สรอรรถ ดาบบัง, ส.ต.ต.สิทธิพร ดอนไพรที และ ส.ต.ต.ชยุตม์ คงประสิทธิ์ โดน อินโดนีเซียตัดหน้าเข้าเส้นชัย ทำให้ ทีมชาติไทย ได้แค่เหรียญเงินในรายการนี้ โดยที่ เทพบิว "ภูริพล" ติดตามให้กำลังใจทีมไม่ห่าง ณัฐพล ดันสูงเนิน ลมกรดทีมชาติไทยเร่งเครื่องคว้าแชมป์ วิ่งข้ามรั้ว 110 ม.ชาย ด้วยเวลา 13.832 วินาที เหรียญทองของ “เจ้าบาส” ถือเป็นเหรียญทองข้ามรั้ว 110 ม.ชาย ครั้งแรกในรอบ 8 ปี หลังจากที่ว่างเว้นให้กับลมกรดจากฟิลิปปินส์ และ มาเลเซีย ในซีเกมส์ 3 ครั้งหลังสุด ขว้างจักรหญิง ร.ต.ท.หญิงสุเบญรัตน์​ อินแสง คว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน สถิติ 57.69 ม.