โดย แมนฯ ซิตี้ จากอังกฤษ เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดียม ถล่ม ไลป์ซิก จากเยอรมนี ขาดลอย 7-0 ในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2022-23 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เมื่อวันที่ 14 มี.ค. จากประตูของ เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่เหมาะคนเดียว 5 ลูกนาที 22, 24, 45+2, 53 และ57 รวมถึงอิลคาย กุนโดกัน นาที 49 และเควิน เดอ บรอยน์ นาที 90+2 จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวมสองนัด 8-1 พร้อมเป็นสถิติชนะมากที่สุดในรายการนี้เทียบเท่ากับตอนถล่ม ชาลเก 04 เมื่อเดือน มี.ค. 2019 ขณะที่ ฮาลันด์ ทำสถิติยิงเป็นนัเตะอายุน้อยสุดที่ยิงประตูในยูซีแอลเกิน 30 ประตู (จาก 25 เกม) ด้วยอายุ 22 ปี 236 วัน พร้อมเป็นผู้เล่นรายที่ 3 ในรายการนี้ซึ่งทำไได้ 5 ประตูในเกมเดียวต่อจาก หลุยส์ อาเดรียโน และลิโอเนล เมสซี หลังเกม เป๊ป แจงเหตุที่เปลี่ยนตัว ฮาลันด์ ออกในนาที 63 แม้เขาจะมีลุ้นทำดับเบิลแฮตทริกว่า กลัวนักเตะหมดความท้าทาย “ถ้าเขาบรรลุความสำเร็จนี้ (ทำดับเบิลแฮตทริก) สถิติในวัย 22 ปีคงจะน่าเบื่อ ชีวิตของเขา ดังนั้นตอนนี้เขาจะมีเป้าหมายที่จะทำมันในอนาคต ที่นี่ และทุกที่ นั่นคือเหตุผลที่ผมเปลี่ยนตัวเขาออก” “ทำ 5 ประตู ผมจะพูดอะไรได้กับตัวเลขของเขาในฤดูกาลนี้ ปัญหาสำหรับผู้ชายคนนี้คือทุกครั้งที่เราทำไม่ได้ 2-3 ประตูขึ้นไป เขาจะถูกวิจารณ์ไปตลอดชีวิตการค้าแข้งของเขา นี่คือความเป็นจริง” นอกจากนั้นกุนซือวัย 52 ปี ยังตอกกลับหลังโดนวิจารณ์เรื่องการจัดตัวผู้เล่นลงสนามว่า “เควิน เดอ บรอยน์ เป็นผู้เล่นที่มีพลัง ถ้าเขาไม่มีไดนามิกในการเคลื่อนไหว เขาก็ไม่ใช่ผู้เล่นที่สามารถเล่นในระดับสูงสุดได้ ผู้คนบอกว่าผมต้องใช้งาน เดอ บรอยน์ ตลอดเวลา ใช่ คุณว่าผมงี่เง่าหรือเปล่า ถ้าเขาอยู่ในระดับนั้น เขาจะไม่ได้เล่นเหรอ? บางครั้งเขาไม่ได้เล่นในระดับนั้น ซึ่งคุณต้องเห็น และเข้าใจ”