การแข่งขันปทุมธานี 6 แดง ชิงแชมป์โลก 2023 "ปทุมธานี ซิกส์ เร้ด เวิลด์ แชมเปียนชิพ 2023" ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ธรรมศาสตร์คอนเวนชั่นเซนเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมาเป็นการชิงชัยวันที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม แบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แข่งขันแบบพบกันหมดในกลุ่ม นำ 2 อันดับแรกที่ดีที่สุดของแต่ละกลุ่มผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนต่อไป โดยจะแข่งขันกันในระบบ 5 ใน 9 เฟรมไฮไลต์ในกลุ่ม จี มาห์มูด แอล ฮารีดี้ แชมป์ 6 แดงของทวีปแอฟริกาชาวอียิปต์ วัย 23 ปี ที่พ่าย สจ๊วต บิงแฮม มาในแมตช์แรก 1-5 เฟรม ลงสนามพบ "หมู ปากน้ำ" นพพล แสงคำ มืออันดับ 33 ของโลกสูงที่สุดในบรรดาจอมคิวหนุ่มไทย ที่ประเดิมด้วยชัยชนะมาในแมตช์แรกเหนือ จอร์แดน บราวน์ 5-4 เฟรม
หมูออกสตาร์ตดุดัน สองเฟรมแรกเจ้าตัวแทงได้อย่างแม่นยำ กดไม้เดียวขาด ขึ้นนำ 2-0 แต่ในเฟรมที่สาม มาห์มูด ได้โอกาสเอาคืนบ้าง อาศัยจังหวะหมูแทงไม่ลงเอาชนะคืนบ้าง ไล่มา 1-2 เฟรม ทว่าหลังจากนั้นเป็นทาง หมู ปากน้ำ ที่เข้าฟอร์มเก่ง แทงได้สุดแม่นยำ ไล่กด มาห์มูด ที่ยังมีผิดพลาดอยู่เรื่อยๆ ได้สามเฟรมติด ก่อนคว้าชัยชนะไป 5-1 เฟรม 53-10, 64-4, 4-44, 56-7, 28-21, 41-31 ส่งผลให้เจ้าตัวเก็บชัยชนะ 2 แมตช์ติดในรอบแบ่งกลุ่มนี้ การันตีเข้าสู่รอบ 16 คนร้อยเปอร์เซนต์แล้ว โดย หมู จะรอชิงตำแหน่งแชมป์กลุ่มกับ สจ๊วต บิงแฮม นักแม่นรูจากอังกฤษที่ชนะมา 2 แมตช์ติด เข้ารอบเป็นที่แน่นอนแล้วเช่นกันในวันถัดไป
ด้านกลุ่ม บี ทอม ฟอร์ด มืออันดับ 30 ของโลกชาวอังกฤษวัย 39 ปี ที่คว้าชัยมาแมตช์แรกเหนือ จู ยู่หลง 5-1 เฟรม ลงแข่งขันแมตช์ที่ 2 พบ "เอฟวัน" เทพไชยา อุ่นหนู อดีตแชมป์ 6 แดงโลกปี 2015 ของไทยวัย 37 ปี ที่แทงดุใส่ จิมมี่ ไวท์ มา 5-0 เฟรม
เป็นเกมที่สุดสูสีสำหรับคู่นี้ สองฝั่งเป็นสไตล์แทงเร็วด้วยกันทั้งคู่และเป็น ทอม ฟอร์ด ที่จั่วหัวดีกว่า ชิงจังหวะตบไม้เดียวไปสองเฟรมติด ขึ้นนำ 2-0 แต่ถัดมา เอฟ ที่ไม่มีใจเสียค่อยๆ หาโอกาสไล่ตบคืนและก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม แทงคว้าชัยรวดสามเฟรมติด พลิกนำ 3-2 เฟรม ฝั่ง ทอม ฟอร์ด แทงเอาคืนมาได้อีกหนึ่งเฟรมตีเสมอ 3-3 แต่หลังจากนั้น เอฟวัน ที่ผิดพลาดน้อยกว่าในแมตช์นี้เป็นฝ่ายเอาชนะติดต่อกันสองเฟรมต่อมา จบการแข่งขัน "เอฟวัน" เทพไชยา อุ่นหนู ชนะ ทอม ฟอร์ด 5-3 เฟรม 0-37, 0-62, 73-0, 49-9, 40-22, 0-65, 44-29, 54-0 เอฟ ผ่านสองแมตช์ ชนะรวด จ่อเข้ารอบ 16 คนต่อไป โดยแมตช์สุดท้ายจะพบกับ จู ยู่หลง ที่มีผลงานชนะ 1 แพ้ 1
ขณะที่ผลคู่อื่นของนักกีฬาไทย กลุ่ม อี "แจ็ค สระบุรี" เดชาวัต พุ่มแจ้ง อดีตแชมป์สมัครเล่นโลกปี 2010 วัย 44 กะรัตของไทย ชนะ โรเบิร์ต มิลกิ้นส์ สอยคิวมืออันดับ 27 ของโลกชาวอังกฤษวัย 46 ปี 5-0 เฟรม 52-10, 42-35, 38-8, 33-1, 32-22 ส่งผลให้ แจ็คทำผลงาน 2 แมตช์ ชนะ 1 แพ้ 1 รอลุ้นเข้ารอบในแมตช์สุดท้ายที่จะพบกับ แม็ทธิว เซลต์ ซึ่งพ่ายมา 2 แมตช์ติดในวันถัดไป
กลุ่ม ดี จัดด์ ทรัมป์ อดีตแชมป์โลกปี 2019 มืออันดับ 4 ของโลกชาวอังกฤษวัย 33 ปี ที่ตุนชัยชนะในแมตช์แรกไว้เหนือ ริกกี้ วอลเดน 5-0 ลงดวลแมตช์ที่สองพบ "นุ้ก สงขลา" กฤษณัส เลิศสัตยาทร แชมป์เอเชียปี 2016 วัย 34 ปี ที่พ่ายมาในแมตช์แรกให้กับ ไห่ หลง หม่า 3-5 เฟรม โดยรูปเกมเป็น นุ้ก ขึ้นนำได้อย่างเซอร์ไพรส์แฟนๆ 4-2 เฟรม แต่หลังจากนั้น จัดด์ ทรัมป์ โชว์ความแม่นของจริง พลิกมาชนะ 5-4 เฟรมอย่างสุดยอด 0-44, 47-4, 4-58, 21-33, 45-0, 21-37, 42-29, 63-12, 55-6 นุ้กพ่าย 2 แมตช์ติด แต่ยังมีโอกาสลุ้นเข้ารอบโดยที่ จัดด์ ทรัมป์ ต้องชนะในแมตช์สุดท้ายที่จะพบกับ ไห่ หลง หม่า และนุ้กก็ต้องชนะ ริกกี้ วอลเดน ในแมตช์สุดท้ายเช่นกัน
กลุ่ม เอ "มิ้งค์ สระบุรี" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย สนุกเกอร์สาวมือหนึ่งของโลกวัย 23 ปี หญิงสาวเพียงคนเดียวของรายการที่ตกรอบเป็นที่แน่นอนไปแล้วหลังพ่ายสองแมตช์ติด ลงสนามแมตช์สุดท้ายให้ครบตามโปรแกรม แพ้ให้กับ สตีเฟ่น แม็คไกวร์ แชมป์เก่ารายการนี้เมื่อปีที่แล้ววัย 41 ปีชาวสก็อตแลนด์ 0-5 เฟรม 22-33, 0-59, 25-39, 21-30, 0-64 ทำให้จบการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ อันดับ 1 จาง อันตะ, อันดับ 2 ติง จุนฮุย, อันดับ 3 สตีเฟ่น แม็คไกวร์ และ อันดับ 4 มิ้งค์ สระบุรี
กลุ่ม ซี จอห์น ฮิกกินส์ เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย มืออันดับ 5 ของโลกวัย 47 ปีชาวสก็อตแลนด์ ชนะ "นุ้ก คอนหวัน" ปรมินทร์ ด่านจิรกุล แรงกิ้งประเภท 6 แดงอันดับ 1 ของประเทศไทย วัย 35 ปี 5-0 เฟรม 46-8, 70-0, 53-2, 71-0, 31-13 โดยกลุ่มนี้แข่งครบทุกแมตช์แล้ว อันดับ 1 โฮเซน วาเฟอี, อันดับ 2 จอห์น ฮิกกินส์, อันดับ 3 นุ้ก คอนหวัน และ อันดับ 4 เคน โดเฮอร์ตี้ ส่งผลให้ นุ้ก ตกรอบเป็นคนที่สองของนักกีฬาไทยต่อจาก มิ้งค์ สระบุรี