สำหรับนักกีฬาเทควันโดชุดนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างทีมชุดใหญ่กับทีมเยาวชน รวมทั้งหมด 9 คน นำทีมโดย หนูนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 และแชมป์โลก 2 สมัย โดยรายชื่อนักกีฬา ประกอบด้วย ประเภทเยาวชน พรภวิษย์ โตรื่น รุ่น 51 กก.ชาย, ณัฐกมล วาสนา รุ่น 46 กก.หญิง, กมลชนก สีเคน รุ่น 49 กก.หญิง, ประเภทประชาชน ณภัทร ศรีติมงคล รุ่น 63 กก.ชาย, นฤพงษ์ เทพเสน รุ่น 68 กก.ชาย, แจ๊ค วูดี้ เมอเซอร์ รุ่น 74 กก.ชาย, พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ รุ่น 49 กก.หญิง, พรรณนภา หาญสุจินต์ รุ่น 57 กก.หญิง และ ศศิกานต์ ทองจันทร์ รุ่น 62 กก.หญิง ทีมชุดนี้มี “โค้ชเช” ชัชชัย เช หัวหน้าผู้ฝึกสอน คุมทีม ร่วมด้วย “โค้ชชิต” วิชิต สิทธิกัณฑ์ โค้ชชาวไทย ทีมชุดใหญ่จะเดินทางวันที่ 8 มี.ค. อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ “น้องเทนนิส” พร้อมด้วย โค้ชปาร์ค ฮี คัง โค้ชชาวเกาหลีใต้ จะเดินทางไปสมทบในวันที่ 15 มี.ค. เนื่องจาก พาณิภัค มีคิวลงแข่งขันเพียงรายการเดียว คือ “จี2 เบลเจียน โอเพ่น เทควันโด 2023” “ทั้งสองรายการ มีคะแนนสะสมอันดับโลก เพื่อกรุยทางสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส แต่การที่เราให้ พาณิภัค ลงเล่นรายการเดียวก็เพื่อเซฟตัวนักกีฬาด้วย เพราะปีนี้ยังมีแมตช์ใหญ่อีกหลายรายการที่ต้องลงแข่งขัน ซึ่งทั้งสองรายการยังจะเป็นเวทีที่ให้นักกีฬาเยาวชนหน้าใหม่ของไทย ได้มีโอกาสสั่งสมประสบการณ์ การเจอกับจอมเตะในยุโรป ถือเป็นอีกมิติที่เราจะได้เห็นลีลาหรือสไตล์การเล่นของนักกีฬาที่มีสระระสูงใหญ่ แต่ก็มีความคล่องตัวสูง ซึ่งแตกต่างจากนักกีฬาเอเชีย, อมริกา, อเมริกาใต้ และแอฟริกา ซึ่งทีมชุดนี้จะได้ประโยชน์อย่างมากแน่นอน ส่วนความหวังนั้นปกติแล้วทุกครั้งเราจะตั้งเป้าไว้ที่รายการละ 1 เหรียญทอง ก่อน ส่วนจะทำได้เพียงใดต้องไปดูหน้างาน ต้องยอมรับว่าเทควันโดยุคนี้เปลี่ยนไปเยอะ ทุกชาติแข็งแกร่งไม่แพ้กัน เราเองก็ต้องพัฒนาและทำอย่างเต็มที่ทุกรายการที่ลงแข่งขัน” บิ๊กเอ กล่าว