ที่กลุ่มแกะหนังตะลุงบ้านหนองหวายน้ำ ซึ่งตั้งอยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 2 ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง พบกับ นายสมหมาย พลประสิทธ์ อายุ 73 ปี ครูภูมิปัญญาด้านการแกะตัวหนังตะลุง ซึ่งครูสมหมายได้สอนรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว คนที่มาเรียนไม่ใช่ใครที่ไหนก็เป็นชาวบ้านที่ต้องการสืบทอดการแกะตัวหนังตะลุง ไม่ให้เลือนหายจากชุมชน และยังเป็นการสร้างรายได้เสริมหลังจากกรีดยางพารา ซึ่งชาวบ้านเองก็ได้เรียนรู้การแกะตัวหนังตะลุงจากนายสมหมาย พลประสิทธ์ ที่สอนขั้นตอนการแกะหนังตะลุง แบบตัวต่อตัว ตั้งแต่การเลือกหนัง การวาดลายตัวหนังตะลุง การตัด ตอกลายลงสี และการร้อยชิ้นส่วนต่างๆ ให้เป็นตัวหนังตะลุงที่สมบูรณ์พร้อมจำหน่าย นาย สมหมาย พลประสิทธิ์ กล่าวว่า เดิมตนเองเป็นลูกคู่กับคณะหนังตะลุง พออายุมาก ลูกๆก็บอกให้หยุดเดินสายไปแสดงในที่ต่างๆ ตนก็ได้หยุด แต่ด้วยใจรักในหนังตะลุง บวกกับฝีมือการแกะหนังตะลุงไม่เป็นสองรองใคร จึงได้แกะตัวหนังตะลุงขายเรื่อยมารวม 35 ปี สร้างเงินสร้างงานให้ตนเอง นับวันยิ่งอายุมากขึ้นก็หวั่นว่าวิชาความรู้ที่มีอยู่ติดตัวจะจางหายจึงได้ชักชวนคนในหมู่บ้านมาเรียนรู้การแกะหนังตะลุง โดยตนเองเป็นคนลงทุนซื้ออุปกรณ์ และนำแบบตัวหนังตะลุงที่มีอยู่มาสอนให้ทุกคนได้ฝึกได้ทำจนได้ผลงานที่สวยงาม พร้อมที่จะจำหน่ายได้ ตนเองก็เป็นคนหาตลาดให้ โดยตัวหนังตะลุงตัวใหญ่ก็จะขายให้กับโรงหนังตะลุง ตัวเล็กก็ขายตามงานต่างๆ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 20 บาท 60 บาท 200 บาท ไปถึง 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด ลวดลาย และตัวหนังตะลุง หากเป็นตัวหนังตะลุง อาทิ พูนแก้ว ยอดทอง นายเท่ง นายเปี๊ยก นายโถ ราคาก็จะไม่เกิน 300บาท แต่ถ้าเป็นตัวเจ้าเมือง ตัวพระ ตัวนาง นางยักษ์ ฤๅษี ก็จะมีราคาสูงขึ้น อยู่ที่ตัวละ 500 - 900 บาท เพราะเป็นงานละเอียดและประณีต ส่วนที่มีค่า และราคาสูงหลักพันก็จะเป็นตัวละครในวรรณคดี เช่น พญาครุฑ พญานาค มังกร สุวรรณมัชฉา พระอิศวรทรงโค และนักการเมือง เช่น นายชวน หลีกภัย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลุงสมหมาย ยังบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมีตัวหนังตะลุงที่เป็นที่รัก เคารพ ชื่นชอบเก็บไว้อยู่ 1 ชิ้น นั้นคือ ตัวหนังตะลุง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลุงสมหมาย บอกว่า มีคนมาขอซื้อ แต่ตนเองไม่ขาย เพราะรัก และชื่นชอบ ขอเก็บไว้เองที่บ้าน