การแข่งขันดังกล่าว ทางสมาคมนักเทนนิสอาชีพหญิง (ดับเบิลยูทีเอ) ได้ให้ความไว้วางใจให้ กลุ่มบริษัท พราว และทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันต่อในครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ในชื่อว่ารายการ “ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ” ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,375,000 บาท ณ ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แข่งขันในช่วงระหว่างวันที่ 30 มกราคม-5 กุมภาพันธ์ 2566
นอกจากนี้ยังได้รับข่าวดีว่า เบียนก้า อันเดรสคู นักหวดจากแคนาดา แชมป์หญิงเดี่ยวแกรนด์สแลม "ยูเอส โอเพ่น" ปี 2019 มืออันดับ 43 ของโลกในปัจจุบัน และอดีตมือ 4 ของโลก ได้ยืนยันแล้วว่าจะมาร่วมการแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ ปีนี้ ในฐานะไวลด์การ์ด (สิทธิพิเศษ) ฉะนั้นคิดว่าการมาของอดีตแชมป์ยูเอส โอเพ่น จะสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับศึกไทยแลนด์ โอเพ่น ได้อย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน ยังได้มอบไวลด์การ์ดให้กับนักเทนนิสไทย จากการพิจารณาร่วมกันหลายฝ่ายให้กับทั้ง "ลักส์" ลักษิกา คำขำ, "พราว" ชมภู่ทิพย์ จันดาเขต, "ออมสิน" อัญชิสา ฉันทะ ในประเภทเดี่ยว รอบคัดเลือก รวมทั้ง "เอิร์ธ" เพียงธาร ผลิพืช ในประเภทคู่
นายสุวัจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับไวลด์การ์ด ประเภทเดี่ยว รอบเมนดรอว์ ทางนายภราดรได้เข้ามาพูดคุยปรึกษา และเสนอชื่อ "รวงข้าว" ลัลนา ธาราฤดี นักหวดดาวรุ่งวัย 18 ปี ซึ่งฝีมือดี ตีหนัก มีการเคลื่อนที่คล่องแคล่วว่องไว และมั่นใจว่าจะเป็นดาวรุ่งที่เติบโตต่อไปในวงการเทนนิสได้ และให้จับตาดูเด็กคนนี้ จึงได้เลือกให้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งนี้ให้แฟนเทนนิสชาวไทยได้ร่วมส่งใจเชียร์
ขณะที่ นายภราดร กล่าวว่า ลัลนา ธาราฤดี เป็นนักเทนนิสที่มีฝีมือดี มีประสบการณ์ทีมชาติตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงชุดใหญ่ ทั้งชุดซีเกมส์ และเฟดคัพ ก้าวต่อไปที่ควรจะได้เล่นคือระดับอาชีพ ซึ่งสามารถพิสูจน์ฝีมือ และสร้างเซอร์ไพรส์มาหลายแมตช์ เชื่อว่าการได้แข่งรายการนี้จะได้ประสบการณ์ และคะแนนสะสมอันดับโลกขึ้นไปอีก ส่วนตัวเชื่อว่า น้องรวงข้าวพร้อมสำหรับเวทีระดับโลกครั้งนี้แม้อาจจะมีตื่นเต้นนิดหน่อย แต่จะปรับตัวได้ และมีโอกาสทำผลงานได้ดีอีกด้วย
สำหรับ "รวงข้าว" ลัลนา ธาราฤดี นั้น เพิ่งคว้าแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยว จากการแข่งขันเทนนิสอาชีพหญิงนานาชาติ เก็บคะแนนโลก ไอทีเอฟ วีเมนส์ เวิลด์ เทนนิส ทัวร์ W40 รายการ "ไอทีเอฟ โปร เซอร์กิต พรีเซนเต็ด บาย เอสเอที" ชิงเงินรางวัลรวม 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,400,000 บาท เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2566