ในช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่หลาย ๆ ประเทศตกอยู่สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้หุ้น กองทุน หรือตลาดการลงทุนอื่น ๆ ผันผวนไปด้วยเช่นกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ ไม่ว่าที่ผ่านมาจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากและเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ แต่ราคาทองคำกลับมีแนวโน้มสูงขึ้น จึงทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์หลายคนจับตามอง และเป็นที่สนใจในกลุ่มลงทุนสำหรับผู้ที่กำลังมองหาการคุ้มครองความมั่งคั่งในช่วงเวลาที่ไม่มีความแน่นอน

นอกจากนั้นข้อมูลจากเว็บไซต์กรุงศรี ได้สรุปข้อมูลเกี่ยวกับราคาทองคำไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า ลงทุนทองคำ คือ วิธีที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ หากย้อนไปดูราคาในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมาในเวลา 10 ปี ราคาทองคำเพิ่มขึ้นสูงถึง 4,850 บาท หรือคิดเป็น 19.4 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 0.5 - 1.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

ซึ่งการลงทุนกับทองก็ไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียวเท่านั้น วันนี้เรารวบรวมการลงทุนในรูปแบบทองคำมาฝากกัน สำหรับมือใหม่หัดลงทุนที่กำลังสนใจตลาดทองคำว่ามีรูปแบบใดบ้าง ที่ตอบโจทย์รูปแบบการลงทุนที่เป็นคุณที่สุด

1.ซื้อทองที่ร้านทอง

รูปแบบแรกเป็นรูปแบบการเก็บสะสมทองโดยการไปซื้อที่ร้านทอง เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และเป็นวิธีที่คนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคย และน่าเชื่อถือที่สุด เพราะเราได้ไปสัมผัสทองจริง ๆ และเอามาเก็บไว้กับเราโดยตรง แต่วิธีนี้เราจะต้องหาที่เก็บทองให้ดี และปลอดภัย เพราะถ้าหายขึ้นมาก็จบเห่

ซึ่งการซื้อทองเพื่อสะสม ก็มีทั้งรูปแบบทองแท่ง และทองรูปพรรณ โดยการซื้อทองคำ ให้เราดูที่ราคาขาย ส่วนการขายทองคำ ให้ที่ดูราคาซื้อ การเลือกชนิดทองคำเพื่อการลงทุน ควรเลือกลงทุนในทองคำแท่ง เพราะ ราคาซื้อ – ขาย ทองคำแท่ง แตกต่างกันน้อยกว่า ทองรูปพรรณ ฉะนั้นเมื่อราคาขึ้น จะทำให้เกิดกำไรเร็วกว่า

2.ออมทองผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์

สำหรับคนที่ไม่มีเงินก้อน แต่อยากลงทุนในทองคำที่สามารถทำได้ง่ายผ่านออนไลน์อีกรูปแบบหนึ่งที่ทำได้ก็คือ การออมทอง โดยเราจะออมทองแบบ DCA หรือ หักเงินเพื่อซื้อทองทุกเดือน หรือจะค่อย ๆ ซื้อเมื่อเรามีเงินก็ได้ 

ข้อดีของโปรแกรมออมทอง ก็สามารถซื้อได้รวดเร็ว สะดวก ซื้อได้บนออนไลน์ ราคาเรียลไทม์ Gold Spot ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่ต้องซื้อครั้งละมาก ๆ ด้วย เมื่อออมครบก็สามารถรับทองจริง หรือสามารถสั่งขายทองคำเพื่อรับเป็นเงินสดเข้าพอร์ตได้ แต่ควรเลือกออมทองกับแอปพลิชันที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ แนะนำให้เป็นแอปออมทองที่มีหน้าร้านอยู่จริง เช่น YLG หรือ YLG GOLDSAVING , แม่ทองสุก (MTS) , ฮั่วเซ่งเฮง เป็นต้น

3.หุ้นทองคำ

สำหรับคนที่ไม่ได้อยากเก็บทอง และชอบการลงทุนในรูปแบบหุ้น ก็จะมีหุ้นทองคำ ซึ่งก็คือการลงทุนประเภทหนึ่งที่เราเหมือนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการนั้น ๆ โดยสิทธิในกิจการนั้น จะขึ้นอยู่กับสัดส่วนการถือครองหุ้น เราสามารถเลือกลงทุนในหุ้นทองคำที่มีให้เลือกมากมายในตลาดหลักทรัพย์ เช่น หุ้นบริษัทที่ทำการซื้อขายทองคำโดยตรง ร้านทอง หรือหุ้นที่เป็นต้นน้ำในการผลิตอย่างหุ้นเหมืองทอง โดยปัจจัยในการขึ้นลงของราคาหุ้น จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ราคาทองคำเท่านั้น จะมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากที่มีผลต่อราคา อาทิ สภาวะตลาดหุ้น ณ ขณะนั้น ผลประกอบการของบริษัท และแผนการลงทุนของบริษัทว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตมากน้อยแค่ไหนในอนาคต

สำหรับคนที่จะเลือกลงทุนด้วยวิธีนี้ แน่นอนว่าการลงทุนมีความเสี่ยง เพราะฉะนั้นการติดตามข่าวสาร การหาความรู้และวิเคราะห์การลงทุน เพราะการลงทุนแบบหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างสูง อาจไม่เหมาะกับมือใหม่  หรือถ้าเป็นนักลงทุนมือใหม่ที่คิดจะเข้ามาในตลาดนี้ก็ควรที่จะต้องหาความรู้ให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้การลงทุนแทนที่จะเป็นผลกำไรแต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้หมดทุนได้

4.กองทุนรวม

​​ การทุนรวมทองคำ เป็นวิธีการลงทุนที่ทำได้ทั้งเป็นเงินก้อนหรือทยอยลงทุนก็ได้ แต่จุดเด่น คือ มีเงินน้อยก็สามารถลงทุนได้ แต่จะอยู่ในรูปแบบหน่วยลงทุน หรืออีกมุม จะไม่ได้ถือครองทองคำแท่งโดยตรง (ทองคำแท่งเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ) เป็นการถือครองผ่านกองทุนรวมที่มีผู้รับฝากและเก็บรักษาทรัพย์สิน (Custodian) ดูแลสินทรัพย์ที่ถือครอง โดยเมื่อทยอยลงทุนเป็นรายเดือน ใช้ราคา NAV ของวันทำการสุดท้ายของเดือน ทำให้ผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนรวมไทย และกองทุน ETF ในต่างประเทศโดยตรง มีดังนี้​​

สำหรับการลงทุนแบบกองทุนรวมมีข้อดีคือเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามตลาด หรือมีความรู้ในหลักทรัพย์ประเภทนี้ไม่มากนัก แต่มีความสนใจที่อยากจะลงทุนโดยมีมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนโดยเฉพาะคอยดูแลบริหารจัดการให้

5.การเทรดทอง ผ่าน ตราสารอนุพันธ์ หรือ Gold Future

ตราสารอนุพันธ์เป็นตราสารประเภทหนึ่ง ที่ใช้สำหรับบริหารความเสี่ยง (Risk Management, Hedging) หรือ เก็งกำไร (Speculative) ซึ่งตราสารอนุพันธ์เป็นตราสารที่ซับซ้อนซึ่งเรียกได้ว่าการลงทุนวิธีนี้เป็นวิธีที่เสี่ยงมากที่สุด ซึ่งเหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้น และต้องใช้ความรู้ Technical Analyst เป็นอย่างมาก สามารถลงทุนด้วยการเปิดบัญชีหุ้น และเปิดบัญชีอนุพันธ์แยกเพื่อไปเทรดได้นั่นเอง

จากเว็บไซต์ www.moneybuffalo.in.th ได้อธิบายถึงการลงทุนด้วย Gold Future ได้ว่า เป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่เป็นการวางหลักประกัน บางส่วน แล้วซื้อสัญญา เพื่อเก็งว่าราคาทองคำจะขึ้น (Long) หรือ ลง (Short) และความเสี่ยงขึ้นอยู่กับหลักประกันที่วางด้วย ถ้าน้อย พอร์ตจะแตกได้ง่าย เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า นักลงทุนจึงไม่ต้องจ่ายเงินทั้งจำนวน เพียงแค่วางเงินหลักประกันขั้นต้น (Initial Margin) 

รูปแบบการลงทุนในทองคำที่เอามาฝากกันก็มีตั้งแต่ การลงทุนรูปแบบง่าย เป็นการลงทุนที่คนไทยนิยมกันก็คือการซื้อทองเก็บ หรือสะสมเล็กผสมน้อยไม่ต้องใช้เงินก้อนแบบการออมทอง ไต่ระดับความยากมาที่กองทุน หุ้น ตราสารอนุพันธ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็มีความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกันออกไป ดังนั้นให้สำรวจตัวเองก่อนว่ามีความพร้อมรับความเสี่ยงขนาดไหน หรือมีความรู้ในการลงทุนมากแค่ไหน ก่อนตัดสินใจเลือกลงทุน เพราะการรู้จักนำเงินไปลงทุนแม้จะเป็นสิ่งที่ดี แต่หากลงทุนแบบเสี่ยงเกินไปหรือลงทุนโดยไม่มีความรู้ก็อาจทำให้คุณเสี่ยงที่จะขาดทุนได้เช่นกัน 

ขอบคุณข้อมูลจาก

รวม 5 แอป ซื้อขายทองออนไลน์ พร้อม 5 วิธีเทรดทอง - Money Buffalo

ลงทุนทองคำ หุ้นทองคำ กองทุนทองคำ ต่างกันอย่างไร ลงทุนแบบไหนเหมาะกับคุณ (krungsri.com)

https://www.kasikornbank.com/th/kwealth/Pages/a234-gold-invest-return.aspx

https://www.finnomena.com/investment-reader/financial-assets-4-derivative/