รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมเข้มมาตรการสวมหมวกกันน็อก หลังพบว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ  จากการไม่สวมหมวกกันน็อก ขณะที่ประชาชน ที่ลาเพิ่ม ยังคงเดินทางกลับเข้าทำงาน หลังมาฉลองปีใหม่กับครอบครัว

   ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารขอนแก่น แห่งที่ 3 ประชาชน ที่ได้จองเที่ยวรถทัวร์โดยสาร ต่างนำสิ่งของสัมภาระมานั่งรอเพื่อจะขึ้นรถทัวร์โดยสาร หลังจากที่ได้กลับมาฉลองปีใหม่กับครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการลาเพิ่มเติม เพราะอยู่กับครอบครัว และเลี่ยงปัญหารถติดขัดบนถนนสายหลัก ทำให้มีผู้โดยสารจำนวนมาก ซึ่งทางสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น ได้เตรียมเที่ยวรถสำรอง รวมทั้งการเข้มงวดกับคนขับรถทัวร์โดยสาร จะต้องมีการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ทุกคน              

ขณะที่ พลตำรวจเอก  สุรเชษฐ์      หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดขอนแก่นแห่งที่ 3 ก่อนที่จะเข้าไปทักทายกับผู้โดยสาร ที่รอเดินทางไปยังปลายทาง

 รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในปีที่ผ่านสถานีขนส่งทั่วประเทศมากกว่า 200 แห่ง มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์บ้างไม่ตรวจวัดบ้าง จนทำให้เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารพลิกคว่ำ แต่ในปีนี้ได้กำชับให้สถานีขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์คนขับรถ จึงทำให้ไม่มีอุบัติเหตุจากรถทัวร์โดยสารเลยในปีนี้     

อย่างไรก็ตามการลดลงของจำนวนการเกิดอุบัติเหตุยังถือว่ายังไม่เป็นที่พอใจ เพราะต้องการให้การเกิดอุบัติเหตุลดลงเหลือน้อยที่สุด ซึ่งหลังจากวันนี้ไป จะมีการนำข้อมูลจากการตั้งด่าน 7 วันอันตรายไปศึกษาและพัฒนา จะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม จะมีการปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อนและเปลี่ยนจุดเสี่ยงให้กลายเป็นจุดไม่เสี่ยงทุกจุดจะต้องมีสัญลักษณ์ที่ชัดเจน รวมถึงหลังปีใหม่ สิ่งที่จะต้องทำอย่างรวดเร็ว คือเรื่องของหมวกกันน็อก

ซึ่งจะเห็นได้ว่าจากการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ และสาเหตุการเสียชีวิตมากจากการไม่สวมหมวกกันน็อก ขับขี่ย้อนศร และรถจักรยายนต์ไม่มีอุปกรณ์นิรภัย และในเรื่องของการคาดเข็มขัดนิรภัยในการขับขี่รถยนต์  และขับรถฝ่าไฟจราจร ซึ่งทั้งหมดนี้คือสาเหตุหลักๆของการเสียชีวิตทั้งสิ้น