การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท ลีกสเตจ โซนตะวันออก นัดที่ 5 “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนหนึ่งเดียวของประเทศไทย ที่เวลานี้อยู่อันดับ 8 มี 6 คะแนน มีคิวออกไปเยือน สนามอุลซาน มุนซู ฟุตบอล สเตเดียม พบกับ อุลซาน ฮุนได เอฟซี ทีมแกร่งจากเคลีก ลีกสูงสุดของประเทศเกาหลีใต้ ทีมอันดับ 7 มี 7 คะแนน จากการลงสนาม 4 นัดเท่ากัน 

นาทีที่ 20 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้โอกาสลุ้นทําประตูครั้งแรก จากจังหวะที่ เคนเน็ต ดูกอล เปิดบอลเข้ากลางให้ ฟิลิป สตอยโควิช พยายามขึ้นโหม่ง แต่ฝ่ายแนวรับของเจ้าบ้านยังเคลียร์ออกมาได้ ก่อนที่ ปีเตอร์ ซูลจ์ จะวิ่งเข้ามาซัดด้วยซ้าย ทว่าทิศทางยังไม่ดีพอ บอลหลุดกรอบออกไป

นาทีที่ 23 อุลซาน ฮุนได เอฟซี ได้โอกาสลุ้นทําประตูบ้าง จากจังหวะที่ มาร์เกา กองหน้าชาวบราซิล วอลเลย์ด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ สกอร์ยังคงเสมอกัน 0-0

นาทีที่ 26 อุลซาน ฮุนได เอฟซี ได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะทําชิ่งของ มาร์เกา ก่อนส่งบอลต่อให้ อี กุยฮยอน ได้ยิงไกลด้วยขวาราว 30 หลา บอลทะยานพุ่งแรง แต่ยังถูก นีล เอเธอร์ริดจ์ เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

นาทีที่ 28 อุลซาน ฮุนได เอฟซี เกือบได้ประตูขึ้นนํา จากจังหวะที่ อี จินฮยอน ได้โอกาสหลุดเดี่ยวขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนยิงด้วยขวาเต็มข้อ แต่ลูกยิงดังกล่าวยังไปตรงตัว นีล เอเธอร์ริดจ์ ที่ปัดออกมาได้ จากนั้น มาร์เกา ที่ตามเข้ามาโหม่งซ้ํา ก็ยังทิศทางไม่ดีพอ เหินข้ามคานออกหลังไปไกล

นาทีที่ 36 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่งบอลตุงตาข่ายได้ก่อนในเกมนัดนี้ จากจังหวะที่ กิลเยร์เม บิสโซลี แทงทะลุช่องให้ คิงสลีย์ ชินด์เลอร์ ที่เติมขึ้นมาจากทางฝั่งขวา ก่อนยิงเข้าประตูไป แต่ทว่าจังหวะดังกล่าวถูกตัดสินว่าไม่เป็นประตู เนื่องจากตําแหน่งการยืนของดาวเตะชาวกานาอยู่ในพื้นที่ล้ําหน้า

จากนั้นทั้งสองฝ่ายไม่มีจังหวะลุ้นทําประตูเพิ่ม อุลซาน ฮุนได เอฟซี และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังทําอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 49 อุลซาน ฮุนได เอฟซี ได้ลุ้นจากจังหวะที่ อี จินฮยอน เปิดบอลเข้ากลาง แต่ไปเข้าหัวของ โก มยองซอก ที่โหม่งสกัดออกมาได้ในจังหวะนี้ แต่บอลยังไปเข้าทาง มาร์เกา ที่วิ่งเข้ามายิงด้วยซ้ายทันที ทว่ายังข้ามคานออกไป 

นาทีที่ 51 อุลซาน ฮุนได เอฟซี เกือบได้ประตูออกนํา เมื่อ มาร์เกา ใช้จังหวะสลัดตัวประกบจาก กิลเยร์เม บิสโซลี และ โก มยองซอก ได้โอกาสขึ้นโหม่งจ่อ ๆ แต่ทว่าบอลพุ่งไปชนคาน พลาดได้โอกาสขึ้นนําอย่างน่าเสียดาย 

นาทีที่ 56 ซอ มยองกวัน ปราการหลัง อุลซาน ฮุนได เอฟซี เติมเกมขึ้นมาในจังหวะที่ทีมได้ลูกเตะมุม ก่อนได้โอกาสขึ้นโหม่งจากบอลเปิดของ พัค มินซอ แต่ยังไม่ผ่านมือ นีล เอเธอร์ริดจ์ ที่พุ่งรับบอลไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

นาทีที่ 64 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสออกนําอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ โรเบิร์ต ซูลจ์ ทําชิ่งกับ กิลเยร์เม บิสโซลี ก่อนที่กองหน้าชาวบราซิลจะได้โอกาสหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ จุง อินมุน ทว่าจังหวะยิงของ บิสโซลี หลุดกรอบออกหลังไปไกลอย่างหมดลุ้น

นาทีที่ 82 ในจังหวะที่ทั้งสองทีมยังหาพื้นที่เจาะกันไม่เข้า ชอย ซอกฮยอน วิงแบ็กขวา อุลซาน ฮุนได เอฟซี ที่เติมเกมบุกขึ้นมา จึงอาศัลลองส่องไกลราว 40 หลา แต่บอลยังเหินข้ามคานออกหลังไปไกล

นาทีที่ 87 นีล เอเธอร์ริดจ์ เซฟสําคัญอีกครั้งในเกมแมตช์นี้ หลังจากที่ผู้เล่นของ อุลซาน ฮุนได เอฟซี เปิดบอลยาวเข้าเขตโทษ ก่อนจะเป็น ฮอ ยุล กองหน้าตัวสํารองที่ได้โอกาสโหม่งจ่อ ๆ แต่ยังไม่ผ่านมือนายด่านชาวฟิลิปปินส์ที่ปัดออกหลังไปได้

จากนั้นทั้งสองฝ่ายไม่มีโอกาสทําประตูกันเพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขัน อุลซาน ฮุนได เอฟซี เปิดรัง อุลซาน มุนซู ฟุตบอล สเตเดียม เสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปแบบไม่มีสกอร์ 0-0 อุลซาน ฮุนได มีเพิ่มเป็น 8 คะแนน ส่วนทัพปราสาทสายฟ้า มีเพิ่มเป็น 7 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม

อุลซาน ฮุนได เอฟซี : จุง อินมุน, ชอย ซอกฮยอน, ซอ มยองกวัน, มิลอช โทรยัค, อี แจอิก, พัค มินซอ, มาธิอัส ลาคาวา (โค ซึงบอม น.79), อี จินฮยอน (อี ชุงยอง น.85), อี กุยฮยอน (อี ชุงยอง น.85), อู วินแบค, มาร์เกา (ฮอ ยุล น.85)
 
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : นีล เอเธอร์ริดจ์, โก มยองซอก, ฆวน เฟร์นันเดซ บลังโก (ธีราทร บุญมาทัน น.82), เคอร์ติส กู๊ด, คิงสลีย์ ชินด์เลอร์, โกรัน เคาซิซ, เคนเน็ต ดูกอล, ปีเตอร์ ซูลจ์, ฟิลิป สตอยโควิช, โรเบิร์ต ซูลจ์, กิลเยร์เม บิสโซลี (ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น.72)