ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศ คืนวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา "สิงโตคำราม" อังกฤษ ฝ่าฟันสู่การชิงดำแม้ผลงานกระท่อนกระแท่น ลุ้นแชมป์ใบนี้สมัยแรก ปะทะ "กระทิงดุ" สเปน ไล่ล่าความสำเร็จจ้าวยุโรปสมัยที่ 4 ซึ่งหากทำได้พวกเขาจะขึ้นอันดับหนึ่งครองโทรฟี่รายการนี้มากสุดทันที

ต้นครึ่งหลังสองนาที ลามีน ยามาล ลากบอลล็อกหนี ลุค ชอว์ ก่อนถ่ายออกซ้าย นิโก้ วิลเลี่ยมส์ วิ่งโล่งไร้ตัวประกอบซัดเล่นทางหนีนายทวารสิงโตคำรามซุกตาข่าย 1-0

ถัดมานาที 73 บูคาโย่ ซาก้า กระชากบอลยัดเข้าเขตโทษ จู๊ด เบลลิงแฮม แปะย้อนมาหน้ากรอบเขตโทษ โคล พาลเมอร์ ตัวสำรองซัดบอลดิ่งเสียบตาข่ายฝั่งซ้ายคมกริบ สิงโตคำราม ตีคืน 1-1
กระทิงดุเอาจนได้ 2-1 นาที 86 มาร์ก กูกูเรย่า ตบเรียดมาระยะ 7 หลา มิเกล โอยาร์ซาบัล แหย่เท้ายิงตามน้ำสวนตัวนายด่านคู่แข่งตุงตาข่าย 

นาที 90 เดแคลน ไรซ์ โหม่งลูกเตะมุม อูไน ซิม่อน ปัดทิ้งช็อตแรก มาร์ค เกฮี โขกซ้ำบอลเจอ ดานี่ โอลโม่ ยืนคุมเส้นประตุสกัดทิ้งแบบเหลือเชื่อ จบเกม สเปน ชนะ อังกฤษ 2-1 พร้อมซิวแชมป์ยูโรเป็นสมัยที่ 4 ซึ่งเป็นเจ้าของโทรฟี่ใบนี้มากสุดดับฝัน "สิงโตคำราม" ได้แค่พระรองยูโรสองครั้งติดเช่นกัน