นายกฯ ให้โอวาทนักกีฬาทีมชาติไทยก่อนสู้ศึกโอลิมปิก ครั้งที่ 33 ที่กรุงปารีส รัฐบาลยันผลักดันและหนุนงบ อวยพรให้คว้าเหรียญโอลิมปิกมาครอง เพื่อเป็นเหรียญประวัติศาสตร์ของชาติไทย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 กรกฎาคม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะตัวแทนของ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะเจ้าหน้าที่และผู้แทนนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 33 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เข้ารับโอวาทจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรีกล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ในนามของรัฐบาล ขอต้อนรับคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้บริหารสมาคมฯ นักกีฬาและผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับสมาคมฯ รวมทั้งนักกีฬาทุกคนที่สามารถทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมใน 17 ชนิดกีฬาและผ่านการคัดเลือกไปร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 33 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การที่นักกีฬาทั้ง 17 ชนิดกีฬาได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในนามทีมชาติไทยครั้งนี้ เป็นผลมาจากการสนับสนุนของสมาคมฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง และจากการที่นักกีฬาทุกคน มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเทในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน ความขยันหมั่นเพียร ความมีวินัย ทำให้สามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและมีคะแนนสะสมจนได้รับโควต้าเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้สำเร็จ ผมถือว่าสิ่งนี้ คือก้าวแห่งชัยชนะของทุกๆ คน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมกีฬาของประเทศสู่ระดับสากลและพร้อมที่จะผลักดันและสนับสนุนงบประมาณด้านการกีฬาของประเทศ รวมถึงการดูแลนักกีฬาให้มีความมั่นคงทางอาชีพ ทั้งการทำงานประจำและสวัสดิการที่เกี่ยวข้อง

“ผมขอขอบคุณคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬาฯ ทุกสมาคม รวมทั้งผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ร่วมมือร่วมใจกันอย่างเข้มแข็งในการสนับสนุน ผลักดัน พัฒนาทักษะและเสริมสร้างขีดความสามารถเชิงกีฬาของทัพนักกีฬาทีมชาติไทยให้เป็นอีกก้าวหนึ่งของประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก กีฬาระดับโลก

ผมและพี่น้องประชาชนชาวไทยขอส่งแรงใจ แรงเชียร์และขอเป็นพลังใจให้นักกีฬาทุกคนใช้ความสามารถให้เต็มที่ในทุกๆ แมตช์การแข่งขัน ขอให้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เคารพในกฎกติกา มารยาท ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และระลึกเสมอว่า การแข่งขันกีฬาเป็นการสร้างมิตรภาพและสัมพันธภาพที่ดีระหว่างนักกีฬานานาชาติ อันจะส่งเสริมให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศ” นายเศรษฐากล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขออวยพรให้นักกีฬาทุกคนประสบความสำเร็จในการแข่งขัน คว้าเหรียญโอลิมปิกมาครอง เพื่อเป็นเหรียญแห่งประวัติศาสตร์ของชาติไทยที่สร้างชื่อเสียง ความภาคภูมิใจให้แก่ตนเอง พี่น้องประชาชนชาวไทยและเพิ่มพูนเกียรติภูมิของประเทศไทยในเวทีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 33 อีกครั้งและขอให้ทุกๆ คนเดินทางไป-กลับ โดยสวัสดิภาพ
จากนั้นตัวแทนคณะกรรมการโอลิมปิกฯ ได้มอบของที่ระลึกให้แก่นายกรัฐมนตรีพร้อมถ่ายรูปร่วมกัน